คลังเร่งสคร.สั่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายตามเป้า

26 ก.ย. 2562 | 07:57 น.

อุตตม สั่งเร่ง รสก.เบิกจ่าย ตามเป้า หวังดันเศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น พร้อมผลักดันระดมทุนผ่าน TFF มากขึ้น ขอภายใน 6 เดือน ได้ 1-2 โครงการ ประกาศสั่งปลดกรรมการผู้แทนคลัง หากทำงานไม่ได้ตาม KPI

               นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจหรือ สคร. ว่า สคร.มีบทบาทสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ 56 แห่งที่มีสินทรัพย์รวมกันสูงรวม 15 ล้านล้านบาท ดังนั้นจึงต้องการให้สคร.สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เข้มข้นมากขึ้น โดยหากมีรัฐวิสาหกิจรายใด ที่เบิกจ่ายไม่ทันตามกำหนดการ ให้เสนอแผนลงทุนอื่นเข้ามาทดแทน เพื่อให้เม็ดเงินลงทุนดังกล่าวได้ลงสู่ระบบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เช่นเดิม ซึ่งสคร.จะต้องแก้ไขกฎระเบียบให้สามารถดำเนินการดังกล่าวได้คล่องตัวมากขึ้นด้วย โดยภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุน ในช่วง 9 เดือนของปีนี้ เบิกจ่ายได้ 1.7 แสนล้านบาท หรือ 47% ของงบลงทุน 3.6 แสนล้านบาท ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้ปีนี้จะต้องเบิกจ่ายให้ได้ 80%

คลังเร่งสคร.สั่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายตามเป้า

               “เราต้องช่วยผลักดันการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ในขณะนี้เศรษฐกิจโลกผันผวน เราต้องเร่งลงทุนในประเทศให้การเบิกจ่ายลงสู่ระบบโดยเร็ว ให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่ลงทุนล่าช้า ต้องเข้าไปดูว่าเป็นเพราะอะไร ทำไม และถ้าดูแล้วว่าไม่ทันแน่ๆ ก็สั่งให้หาโครงการอื่นมาทดแทน เพื่อให้เงินลงทุนยังเดินหน้าอยู่”นายอุตตม กล่าว

คลังเร่งสคร.สั่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายตามเป้า

พร้อมกันนี้ยังต้องการ สคร.เดินหน้าผลักดันให้รัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่มีความต้องการใช้เม็ดเงินในการลงทุน เข้าระดมทุนผ่านกองทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) เพื่อให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าภายใน 6 เดือนหลังจากนี้ จะเห็นโครงการเข้าไประดมทุนผ่าน TFF ประมาณ 1-2 โครงการได้ ส่วนการลงทุนใน PPP อยากเห็นการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพราะการลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่มีเม็ดเงินลงทุนที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจมีสูงถึง 2.55 แสนล้านบาทด้วยกัน ซึ่งสคร.จะออกกฎหมายลูกประมาณ 20 ฉบับ เพื่อให้เกิดการลงทุน PPP ได้มากขึ้น

คลังเร่งสคร.สั่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายตามเป้า

               นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้สั่งการให้สคร.ประสานการทำงานกับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งและกระทรวงเจ้าสังกัดอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้เลือกผู้แทนกระทรวงการคลังที่จะเข้าไปนั่งเป็นกรรมการแต่ละรัฐวิสาหกิจให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้การทำงานเกิดความเข้มข้น และมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหากกรรมการที่เป็นตัวแทนของกระทรวงการคลังรายใด ทำงานไม่ได้เป้าหมายหรือตาม KPI ที่ตั้งไว้ จะต้องปรับเปลี่ยนคนเพื่อให้การทำงานเดินหน้าต่อไปให้ดีขึ้น

         นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสคร. ยืนยันว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจจะได้ 80% หรืออีกประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ เนื่องจากรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่หลายแห่งมีการลงทุนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เช่น ปตท.ก็ทยอยลงทุน ซึ่งจะทำให้มีการเบิกจ่ายในอัตราสูง ขณะเดียวกัน บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ได้แจ้งปรับเปลี่ยนการลงทุน เนื่องจากงบที่ขอมาไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทัน จึงมีการปรับเปลี่ยนมาเร่งลงทุนอื่นเร็วขึ้นกว่าแผนที่กำหนด วงเงินประมาณแสนล้านบาท

คลังเร่งสคร.สั่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายตามเป้า

               ส่วนการลงทุนใน TFF นั้น ขณะนี้มีรัฐวิสาหกิจหลายรายแสดงความสนใจระดมทุนผ่าน TFF ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค แต่รายใดจะเดินหน้าเข้ามาระดมทุนนั้น ต้องรองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ก่อนว่า แต่ละรัฐวิสาหกิจได้เม็ดเงินลงทุนเท่าใด และต้องการระดมเงินลงทุนเพิ่มอีกหรือไม่ ซึ่งคาดว่าหลังเดือนธันวาคมจะมีความชัดเจนขึ้น


คลังเร่งสคร.สั่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายตามเป้า