AIA ชี้คนเอเชีย 10% ป่วย นอนไม่พอ
กลุ่มบริษัทเอไอเอ ฯเดินหน้าตอกยํ้าความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ภายใต้คำมั่นสัญญา “Healthier, Longer,Better Live เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”
ล่าสุดเตรียมเปิดโครงการ “OneMoreHour” พร้อมกัน 18 ประเทศทั่วเอเชีย-แปซิฟิก ส่งเสริมให้คนหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้นอนหลับเพิ่มขึ้น 1 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นผู้คนให้ตระหนักถึงประโยชน์มากมายของการนอนหลับอย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ก่อนเปิดตัวโครงการ เอไอเอได้ศึกษาอย่างครอบคลุม ภายใต้ความร่วมมือกับศ.ไมเคิล ฉี ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับชั้นนำของเอเชียจาก Duke-NUS Merdical School ประเทศสิงคโปร์ โดยให้ข้อมูลว่า จากการศึกษาวิจัยพบว่า การนอนหลับไม่เพียงพอ ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเสื่อมถอย เพราะคนต้องขาดงาน (Absenteeism) หรือถึงตัวจะมาทำงาน แต่ก็ทำงานได้ไม่มีประสิทธิ ภาพอย่างเต็มที่ (Presenteeism) เพราะไม่มีพลังมากพอที่จะทำงานได้เท่าที่ควร
นอกจากนั้นยังมีการทำวิจัยโดย RAND CORPORATION ซึ่งได้วิจัยในประเทศในกลุ่ม OECD 5 ประเทศเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้การวิจัยจะไม่ครอบคลุมประเทศในเอเชีย แต่เขาเชื่อว่า ประเทศกลุ่ม OECD เป็นประเทศที่มีแนวโน้มคุณภาพการนอนดีกว่าประเทศในแถบเอเชีย ดังนั้น ผลกระทบเชิงลบจากการนอนหลับไม่เพียงพอของเอเชีย น่าจะแย่กว่าประเทศในกลุ่ม OECD แน่นอน ซึ่งโดยเฉลี่ยการนอนจะขึ้นกับเพศ อายุ โดยเด็กควรนอน 8-10 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 7-9 ชั่วโมง และผู้สูงอายุ 6 ชั่วโมง หากดูคนสิงคโปร์จะนอนเฉลี่ยที่ 6.5 ชั่วโมง ถือว่ายังไม่เพียงพอ จึงต้องปรับปรุงการนอนให้ดีขึ้น จะช่วยพัฒนาการสมองรวมถึงประโยชน์มากมายจากการนอนทั้งร่างกายและจิตใจ
สำหรับที่มาโครงการ“OneMoreHour”นั้น นายสจ๊วต เอ. สเปนเซอร์ได้เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมาจะเห็นธุรกิจประกันส่วนใหญ่โฟกัส 4 จุด ที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ คือ การดื่ม การสูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย และทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเอไอเอ ได้ค้นหาอุปสรรคที่เป็นปัจจัยนอกเหนือ 4 ข้อดังกล่าวพบว่า สิ่งที่ทำให้คนสุขภาพไม่ดี เป็นเรื่องของการนอนไม่เพียงพอ แม้ว่าทุกคนจะต้องนอน แต่ไม่มีใครเล็งเห็นและให้ความสำคัญกับการนอนที่มีผลต่อสุขภาพ โดยการศึกษาพบว่า ประชากรในเอเชียกว่า 10% มีอาการป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับการนอนหลับ ซึ่งจะเป็นปัญหาสุขภาพที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในเอเชีย
ดังนั้นจากฐานลูกค้าที่มีมากกว่า 30 ล้านคน ในขั้นแรก เอไอเอ จะส่งเสริมให้ตระหนักถึงประโยชน์ของการนอน และขั้นต่อไป จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม จากคนส่วนใหญ่ที่เชื่อว่า การอดหลับอดนอนจะยิ่งประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ จะปรับแอพพลิเคชัน เอไอเอ ไวทัลลิตี้ เชื่อมต่อกับเครื่องมือติดตามการนอนหลับ(Sleep Tracker)เพื่อส่งเสริมและให้รางวัลกับผู้มีนิสัยการนอนที่ดีต่อสุขภาพผ่านแบบประเมินการนอนหลับและเก็บคะแนนจากการนอนหลับในแอพ รวมถึงสร้างศูนย์ข้อมูลการนอนหลับ (Sleep Content Hub” ที่จะมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการปรับนิสัยการนอนให้ดีขี้น
“โครงการ OneMoreHour ไม่ใช่โครงการกระตุ้นด้านการตลาดหรือต้องการยอดขาย แต่เป็นโครงการที่มีวิทยาศาสตร์รองรับ ซึ่งเอไอเอต้องการให้โครงการ OneMoreHour สร้างแรงกระเพื่อมให้คนหันมาสนใจการนอนที่มีคุณภาพ มากขึ้นและเอไอเอจะเป็นเจ้าแรกที่กล้าจะทำโครงการนี้ โดยต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมและแพร่หลายมากขึ้น เปรียบเหมือนโทรศัพท์ หากไม่มีการชาร์จแบตจะใช้ได้อย่างไร คนก็เช่นกันหากไม่นอนอย่างมีคุณภาพ พรุ่งนี้จะมีแบตหรือพลังงานทำงานยังไง”
หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,506 วันที่ 19-21 กันยายน 2562
