AIA ประกาศ 3ปี  เร่งปั๊มเบี้ยโต2เท่า

05 ก.ย. 2562 | 06:35 น.

 

 

 

 

 

หลังเข้ามารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทยของนายอัลเจอร์ ฟัง เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 แทนนายตัน ฮาค เลห์ ที่ถูกโปรโมตไปนั่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาค รับผิดชอบเอไอเอ ประเทศสิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย กัมพูชา และเมียนมา

นายอัลเจอร์ ฟัง เล่าถึงวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจประกันในประเทศไทยให้ฐานเศรษฐกิจฟังว่าภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตในไทยและจีนแตกต่างกันมาก โดยตลาดจีนก้าวหน้าเร็วมาก ไม่เฉพาะด้านผลิตภัณฑ์ประกันอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการลงทุนในเทคโนโลยีต่างๆ จำนวนมาก ทั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Big Data  รวมถึงบริษัทประกันส่วนใหญ่ในจีนจะสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ในธุรกิจประกัน ทั้งในเรื่อง Health และ Wealth เช่น สร้างโรงพยาบาลหรือบ้านพักคนชราเป็นของตัวเอง ลูกค้าที่ซื้อประกันกับบริษัทเหล่านี้จะได้รับการดูแลระยะยาวหรือได้รับสิทธิพิเศษ เช่น เข้าอยู่ในบ้านพักคนชราหรือรักษาในโรงพยาบาลที่ดีขึ้น ขณะที่ผู้กำกับดูแล (Regulator) เองพยายามส่งเสริมตรงนี้ ทำให้การกำกับดูแลไม่ได้บีบบังคับผู้เล่นมากเกินไป

ดังนั้น จากประสบการณ์ที่เคยอยู่ในตลาดประเทศจีนที่พัฒนาเร็วและก้าวหน้าไทยไปแล้ว จะนำสิ่งต่างๆจากจีนมาปรับใช้ในไทย แม้ว่าไทยยังไม่สามารถสร้างระบบ Ecosystem แบบจีนได้ แต่จะพยายามร่วมมือกับโรงพยาบาลต่างๆในเชิงลึกมากขึ้น บทบาทเอไอเอประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงจากผู้เล่น (Player)เป็นพันธมิตร (Partnership) เพื่อให้ลูกค้าได้รับการดูแล นอกจากเรื่องค่าใช้จ่าย แต่จะรวมไปถึงการรักษาที่ดีขึ้น โดยมองว่าไทยยังมีความรู้ความเข้าใจเรื่องประกันน้อยและช่องว่างของความคุ้มครองยังน้อยอยู่ ตลอดจนคนไทยที่อายุน้อยใช้จ่ายเงินมากแต่เก็บออมน้อย สิ่งเหล่านี้ เอไอเอจะเข้าไปช่วยลูกค้าเก็บออมและคิดเรื่องของประกันมากขึ้น

AIA ประกาศ 3ปี  เร่งปั๊มเบี้ยโต2เท่า

อัลเจอร์  ฟัง

 

 

 

 

 

 

ภารกิจสำคัญและเป้าหมายหลังเข้ามารับตำแหน่งมี 2 ข้อคือ 1.ต้องการสร้างสิ่งบวกในไทยและ 2.ในเชิงธุรกิจ อยากเห็นการเติบโตเบี้ยประกันขยายตัวเป็น 2 เท่าภายใน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2565 ซึ่งจะเห็นว่า ตลาดไทยมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโต ทั้งตัวแทนที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการเงิน (Financial Advisor Program) การมีพันธมิตรธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ  การออมน้อยและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ(Aging Society) ด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นตัวชูโรงและเน้นมากขึ้นมี 2 โปรดักต์คือ ผลิตภัณฑ์ประกันควบการลงทุน (Unit Link) ซึ่งสอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ยตํ่า หากลงทุนในโปรดักต์อื่นจะได้ผลตอบแทนตํ่า ซึ่งหากย้ายพอร์ตมาลงทุนใน Unit Link ลูกค้ายังมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูง สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้และเป็นการวางแผนระยะยาว ซึ่งเหมาะเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า แม้กฎเกณฑ์การกำกับดูแลการให้บริการลูกค้าอย่างมีธรรมาภิบาล (Market Conduct) จะทำให้เอไอเอต้องระมัดระวังมากขึ้น แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เดินมาถูกทาง โดยปัจจุบัน Unit Link มีสัดส่วนราวกว่า 20%

 

 

 

 

 

ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประกันโรคร้ายแรง (CI) จะเน้นมากขึ้น เพราะหากดูตัวเลขเบี้ยใหม่ที่เข้ามา จะเป็นโรคร้ายแรงเพียง 6% ถือว่าค่อนข้างตํ่า จึงมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเป็น 2 เท่า หรือ 12% รวมถึงขยับทุนประกันให้มาอยู่ที่ระดับ 2 ล้านบาทจากปัจจุบันเฉลี่ย 8 แสนบาท ซึ่งไม่เพียงพอ ส่วนหนึ่งมาจากลูกค้าไม่เข้าใจคิดว่า ซื้อประกันสุขภาพจะครอบคลุมทั้งหมด หากดูในต่างประเทศ เช่น จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย จะพยายามเพิ่มสัดส่วนประกันโรคร้ายแรงมากขึ้นอย่างน้อยมี 2 เท่าของไทย และมาตรฐานค่ากลางทุนประกันของโรคร้ายแรงควรจะอยู่ที่ 10-15 เท่าของรายได้ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ปิดความเสี่ยงและคุ้มครองได้ดี เพราะเวลาเกิดโรคร้ายแรงไม่เฉพาะค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสีย แต่รวมถึงรายได้ที่จะหายไปด้วย

ตอนนี้ตลาดไทยยังคงเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและฮ่องกง ซึ่งผลงานช่วง 6 เดือนแรกของไทยเป็นที่น่าพอใจ มีเบี้ยใหม่เติบโต 11% จากตลาดที่ติดลบ และเบี้ยรับรวมขยายตัว 5% เรามองว่าช่วงที่เหลือก็น่าจะยังดีอยู่

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,501 วันที่ 5-7 กันยายน 2562

              AIA ประกาศ 3ปี  เร่งปั๊มเบี้ยโต2เท่า