รอ2ปีโอนผิดบัญชีแบงก์ไม่ตัดเงิน
สมาคมธนาคารไทย จับมือแบงก์สมาชิก เล็งขึ้นข้อความแจ้งเตือน หยุดทำธุรกรรมโอนเงินช่วงระบบขัดข้อง-ล่ม ลดปัญหาโอนเงินไม่ผ่าน-เงินถูกตัด ฟากธนาคารขานรับ เร่งทำระบบไอที ชี้ช่วยสื่อสารถึงลูกค้าได้ดีขึ้น
ปีนี้จะเห็นว่า มีเหตุการณ์ระบบธนาคารล่มเกิดถี่ขึ้นในหลายธนาคาร โดยเฉพาะช่วงสิ้นเดือนที่มีคนใช้งานจำนวนมาก เกิดปริมาณธุรกรรมหนาแน่น ทำให้ระบบรองรับไม่เพียงพอ โดยเฉพาะหลังจากที่มีการนำระบบการโอนเงินแบบใหม่ หรือ พร้อมเพย์มาใช้ มีการเชื่อมโยงบริการเข้าด้วยการ เมื่อแบงก์หนึ่งมีปัญหา จะลามกันเป็นลูกโซ่ ซึ่งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 นี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะเริ่มเผยแพร่ข้อมูลสถิติเหตุการณ์ระบบขัดข้องรายสถาบันการเงิน (Downtime) บนเว็บไซต์ของธปท. เพื่อยกระดับบริการของธนาคารให้มีเสถียรภาพ และทำให้ลูกค้ามีข้อมูลในการเลือกใช้บริการสถาบันการเงินต่างๆได้ดีขึ้น
ปรีดี ดาวฉาย
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย(TBA)และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคาร สมาชิกได้ทำข้อตกลงร่วมกันในการทำระบบแจ้งเตือนลูกค้าที่ทำธุรกรรมการเงินบนโมบายแบงกิ้ง หากเกิดกรณีที่ลูกค้าอยู่ระหว่างโอนเงินไปยังธนาคารอื่นผ่านโมบายแบงกิ้ง และธนาคารผู้รับเงินกำลังมีปัญหาเรื่องระบบ โดยมีข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ จะช่วยลดการขัดข้องของระบบ โดยที่ลูกค้ายังไม่ได้เริ่มทำรายการ
ขณะเดียวกัน สมาคมยังอยู่ระหว่างพัฒนาระบบ Universal Financial Industry Message Scheme ที่เรียกว่า ISO 20022 หรือมาตรฐานข้อความที่ใช้สื่อสารในอุตสาหกรรมการเงินสากล เช่น ระหว่างสถาบันการเงินด้วยกัน ระหว่างสถาบันการเงินกับลูกค้าภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการธุรกรรมการเงิน ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยากและใช้เวลาในการพัฒนา แต่หากสามารถทำได้จะมาช่วยเรื่องเวลาการทำธุรกรรมการเงิน เช่น เวลาโอนเงินผิดพลาด จะไม่มีการตัดเงินในบัญชี ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนเกี่ยวข้องจะร่วมกันพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“แผนที่ทำไปแล้วในปีนี้ เป็นเรื่องข้อความแจ้งเตือนลูกค้าที่ทำธุรกรรมโมบาย แบงกิ้ง ซึ่งเมื่อลูกค้าเห็น จะได้ไม่ต้องกดทำธุรกรรมต่อ จะช่วยลดปัญหาที่เกิดก่อนหน้านี้ ที่โอนไปแล้วเงินไปไม่ถึง เงินค้างระหว่างทาง และที่จะเห็นในอนาคต เป็นเรื่องการตัดเงินในบัญชี คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ปีในการพัฒนา เพราะทุกแบงก์จะต้องทำระบบร่วมกัน”
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงกิ้งและนวัตกรรม บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้้อยู่ระหว่างพูดคุยในรายละเอียดกับทีมงานด้านไอที เนื่องจากการแจ้งเตือนจะต้องเข้าใจตรงกัน เพราะการทำธุรกรรมมีหลายช่องทาง เช่น โมบายแบงกิ้ง เอทีเอ็ม ว่าจะแจ้งเตือนอย่างไร
นอกจากนี้ ลักษณะการแจ้งเตือนจะเป็นแบบไหน เช่น หากกรณีธนาคารปลายทางระบบอาจจะไม่ได้ล่ม แต่อาจจะสะดุดหรือหน่วงๆ ชั่วครู่ และระบบกลับมา จะต้องดำเนินการแบบไหน จะแจ้งเตือนลักษณะใด หรือสื่อสารอย่างไรกับลูกค้า ซึ่งหากกรณีลูกค้าโอนจาก KMA ไปยังธนาคารปลายทาง ธนาคารจะต้องสร้างโปรแกรมเพื่อให้รู้ว่า ระบบทำงานของธนาคารปลายทางออนไลน์หรือไม่ ซึ่งตรงนี้อาจจะยากขึ้นและต้องลงรายละเอียดเพิ่มเติม
“ตอนนี้กำลังทำงานกับไอทีอยู่ ซึ่งมีรายละเอียดที่จะต้องทำความเข้าใจเพิ่ม เช่น ช่องทางจะแจ้งเตือนช่องทางไหน หรือรายละเอียดระบบของธนาคารปลายทาง เช่น ล่มแป๊บเดียว ขัดข้องหลายชั่วโมง หรือกรณีระบบกลับมาแล้วจะสื่อสารอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องลงรายละเอียดเล็กน้อย”
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพกล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมการทำตามข้อตกลงที่สมาคมธนาคารไทยวางไว้ โดยข้อตกลงสมาชิกจะต้องทำระบบแจ้งเตือนให้ลูกค้าชัดเจน ซึ่งธนาคารมองข้อดีที่ได้จากการร่วมมือครั้งนี้ คือ 1.สร้างความเข้าใจให้ลูกค้าว่าระบบแบงกิ้งใคร กำลังมีปัญหาหรือปรับปรุงระบบอยู่ อาจทำให้การเชื่อมต่อการทำธุรกรรมสะดุดไปบ้าง และ 2.เพื่อสื่อความให้เข้าใจว่า ปัญหาอยู่ที่ใคร
นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ระบบการแจ้งเตือนลูกค้าโอนเงินไปยังธนาคารผู้รับที่กำลังมีปัญหาขัดข้อง เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะทำงานด้านไอทีของแต่ละธนาคาร ซึ่งไทยพาณิชย์ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการแจ้งข้อความเตือนลูกค้า หากเกิดกรณีที่ทำรายการโอนเงินไปยังปลายทางที่มีปัญหาจะมีข้อความแจ้งเตือนลูกค้าว่า ขณะนี้ระบบการทำงานไม่สมบูรณ์ไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินได้ ซึ่งตอนนี้เข้าใจว่ามี 2 ธนาคารที่ขึ้นระบบดังกล่าวแล้ว คือ ไทยพาณิชย์และกสิกรไทย ส่วนมาตรฐานข้อตกลง ISO 20022 อยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาร่วมกัน
หน้า19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,488 วันที่ 18 - 20 กรกฎาคม พ.ศ.
