เฮดจ์ฟันด์ Bridgewater ของเรย์ ดาลิโอ ถือ ETF ทองเพิ่มใน Q1/19 ตอกยํ้าเชื่อมั่น ‘ทองคำ’ ช่วยกระจายความเสี่ยง
ครบเครื่องเรื่องทองกับ YLG
พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
Follow in somebody’s footsteps.- เดินตามหลังผู้ใหญ่ หมาไม่กัด เป็นสุภาษิตที่นักลงทุนมือใหม่อาจใช้เป็นหนึ่งในหลักการในการบริหารจัดการพอร์ตลงทุนของตนเอง ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองและนักลงทุนรายใหญ่ที่ YLG จะกล่าวถึงวันนี้ คือ นายเรย์ ดาลิโอ มหาเศรษฐีผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เป็นผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่สุดของโลกและล่าสุด Bloomberg ได้จัดอันดับให้นายดาลิโอเป็นบุคคลที่รํ่ารวยติดอันดับ 60 ของโลกอีกด้วย
รายงาน 13F ซึ่งเป็นรายงานที่ผู้จัดการการเงินที่ดูแลเงินทุนมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ต้องยื่นแบบฟอร์ม
ภายใน 45 วันนับจากวันสิ้นไตรมาสต่อก.ล.ต.ของสหรัฐฯ เพื่อแสดงรายการหุ้นที่ถือครอง บ่งชี้ว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 กองทุน Bridgewater Associates ของนายดาลิโอซื้อหน่วยลงทุนใน SPDR Gold Shares (NYSE:GLD) เพิ่มอีก 118,973 หน่วยในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ ทำให้หน่วยการถือครองใน SPDR เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.027 ล้านหน่วยซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 491 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเวลาเดียวกันกองทุนเฮดจ์ฟันด์ยังคงเพิ่มการถือครองหน่วยลงทุนใน iShares Gold Trust (NYSE:IAU) สู่ระดับ 11.6 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นจากระดับ 11.3 ล้านหน่วยที่ถูกรายงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 142.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อย้อนกลับไป จะพบว่ากองทุน Bridgewater Associates ไม่ได้มีสถานะการลงทุนทองคำจนกระทั่งไตรมาสที่ 2 ของปี 2017 และในช่วงเดือนสิงหาคม 2017 นายดาลิโอเคยเขียนไว้ใน Blog ของ LinkedIn ว่าเขากังวลเกี่ยวกับตลาดการเงินเนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองเพิ่มขึ้นทั้งในเอเชียและในสหรัฐฯ และกล่าวอีกว่า “We can also say that if…things go badly, it would seem that gold more than other safe haven assets like the dollar, yen, and treasuries would benefit.: ถ้าหากสถานการณ์ข้างต้นยํ่าแย่ลง ดูเหมือนว่าทองคำจะได้รับประโยชน์มากกว่าสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์, เยน และพันธบัตร” ที่สำคัญ คือ นายดาลิโอแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาการลงทุนทองคำในสัดส่วน 5-10% ของสินทรัพย์การลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ
นอกจากข้อมูลการถือครองสถานะการลงทุนทองคำของกองทุน Bridgewater Associates จะบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่า นายดาลิโอพูดจริงและทำจริงด้วยเช่นกัน ล่าสุดในช่วงต้นปีที่ผ่านมานายดาลิโอ ได้แนะนำสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมให้แก่นักลงทุน ซึ่งประกอบไปด้วย 30% ในหุ้น, 40% ในพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯ (long-term U.S. bonds), 15% ในพันธบัตรระยะกลางของสหรัฐฯ (intermediate U.S. bonds), 7.5% ในทองคำ และอีก 7.5% ในสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ยิ่งตอกยํ้าถึงการให้ความสำคัญต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนในมุมมองของนายดาลิโอได้เป็นอย่างดี
คำแนะนำของนายดาลิโอถือเป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนมือใหม่เพื่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุน ส่วนนักลงทุนทองคำมือโปรอาจใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อพัฒนาพอร์ตลงทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนบางส่วนมักจะมอง
ทองคำเป็นเพียงแค่การลงทุนเพื่อทำกำไรระยะสั้นจนมองข้ามความสำคัญของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยปกป้องพอร์ตลงทุน ดังนั้น YLG แนะนำว่านอกจากทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวแล้วนั้น นักลงทุนควรใช้ประโยชน์ที่หลากหลายของทองคำเพื่อเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนและลดความเสี่ยงในยามที่ตลาดเผชิญกับความเสี่ยงอีกด้วย
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3474 วันที่ 30 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2562
