26 เม.ย. 2560 เวลา 6:39 น. 112
บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยได้ปัจจัยหนุนจากทรัมป์ เผยมาตรการปฏิรูปภาษี ด้านตัวเลขส่งออกของไทยสูงสุดรอบ 4 ปี มองกรอบดัชนี 1,540 - 1,575 จุด แนะเก็งกำไรหุ้นกำไร Q1/60
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเปิดเผยรายละเอียดมาตรการปฏิรูปภาษีในวันนี้ (26 เม.ย.) รวมถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกนายเอมมานูเอล มาครองได้คะแนนอันดับหนึ่ง 23.87% ทำให้ความกังวลเรื่องฝรั่งเศสจะออกจากยูโรโซนลดน้อยลง และตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมี.ค.2560 ขยายตัว 9.2% ส่งผลไตรมาส 1/2560 โต 4.9% สูงสุดในรอบ 4 ปีทำให้คาดการณ์ว่าการส่งออกทั้งปีมีโอกาสขยายตัวได้ถึง 5% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
อย่างไรก็ตามปัจจัยกดดันมาจากหลังประกาศงบไตรมาส 1/2560 พบว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) กลุ่มธนาคารทะลุ 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5% จากไตรมาสก่อนจากภาวะเศรษฐกิจโตช้ากระทบความสามารถชำระหนี้ของลูกค้า SME ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเรื่องคุณภาพสินทรัพย์และขายหุ้นธนาคารลดความเสี่ยง รวมทั้งความไม่แน่นอนในซีเรียและคาบสมุทรเกาหลีที่อาจเกิดความรุนแรงส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติผันผวนจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 26-27 เม.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ประชุมนโยบายการเงิน วันที่ 27 เม.ย. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงิน วันที่ 28 เม.ย. สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เปิดเผยตัวเลข GDP Q1/60 และในวันที่ 2-3 พ.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งตลาดคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมครั้งนี้
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมี Sentiment เชิงบวกจากประธานาธิบดีทรัมป์ เตรียมเปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีในเร็วๆนี้ รวมถึงตัวเลขการส่งออกเดือนมีนาคม ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามความกังวลปัญหา NPL กลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้นเป็นแรงกดดันต่อดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,540 - 1,575 จุด
ทั้งนี้แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ในหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2560 เติบโต แนะนำ PTTEP, PTTGC, TOP, BANPU และWICE รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปฏิรูปภาษีของสหรัฐเนื่องจากมีโรงงานตั้งอยู่ในสหรัฐ แนะนำ IVL และ EPG
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า โพลล์สำรวจการเลือกตั้งรอบสองของฝรั่งเศสประเมินว่านายเอ็มมานูเอล มาครอง จะได้เป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการลดโอกาสที่จะเกิด Frexit ไปจนแทบจะเป็นศูนย์ ส่วน Brexit คาดว่าจะราบรื่นขึ้นหลังการเลือกตั้งที่จะได้พรรครัฐบาลเดิมกลับมาสานงานต่อ ทำให้ความเสี่ยงของยูโรโซนในช่วงนี้เหลือเพียงเรื่องหนี้กรีซที่กำลังจะมีการเจรจาขอเงินช่วยเหลือรอบใหม่
ขณะที่ฝั่งสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศมาตรการปฏิรูปภาษี ซึ่งเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นและภาคธุรกิจในสหรัฐฯ หากมีผลตอบรับดี คาดว่าจะมีการนำเสนอแผนอเมริกันเฮลธ์แคร์ออกมา
ทั้งนี้ ราคาทองคำจึงถูกกดดันจากตลาดหลักใน 2 ภูมิภาคสำคัญของโลก แต่กองทุน SPDR ไม่มีการปรับพอร์ตมาตลอด 2 สัปดาห์ และ Commitments of Traders (COT) รายงานการเพิ่มสถานะอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนฝั่ง speculators สอดคล้องกับภาพทางเทคนิคที่มีแนวรับหนุนที่บริเวณ 1,260 ดอลลาร์ จึงมองการพักตัวของราคาในกรอบจำกัด โดยแนะนำให้เล่น swing trade และฝั่ง long ควร cut loss เมื่อราคาหลุด 1,260 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเปิดเผยรายละเอียดมาตรการปฏิรูปภาษีในวันนี้ (26 เม.ย.) รวมถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกนายเอมมานูเอล มาครองได้คะแนนอันดับหนึ่ง 23.87% ทำให้ความกังวลเรื่องฝรั่งเศสจะออกจากยูโรโซนลดน้อยลง และตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมี.ค.2560 ขยายตัว 9.2% ส่งผลไตรมาส 1/2560 โต 4.9% สูงสุดในรอบ 4 ปีทำให้คาดการณ์ว่าการส่งออกทั้งปีมีโอกาสขยายตัวได้ถึง 5% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
อย่างไรก็ตามปัจจัยกดดันมาจากหลังประกาศงบไตรมาส 1/2560 พบว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) กลุ่มธนาคารทะลุ 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5% จากไตรมาสก่อนจากภาวะเศรษฐกิจโตช้ากระทบความสามารถชำระหนี้ของลูกค้า SME ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเรื่องคุณภาพสินทรัพย์และขายหุ้นธนาคารลดความเสี่ยง รวมทั้งความไม่แน่นอนในซีเรียและคาบสมุทรเกาหลีที่อาจเกิดความรุนแรงส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติผันผวนจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 26-27 เม.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ประชุมนโยบายการเงิน วันที่ 27 เม.ย. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงิน วันที่ 28 เม.ย. สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เปิดเผยตัวเลข GDP Q1/60 และในวันที่ 2-3 พ.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งตลาดคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมครั้งนี้
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมี Sentiment เชิงบวกจากประธานาธิบดีทรัมป์ เตรียมเปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีในเร็วๆนี้ รวมถึงตัวเลขการส่งออกเดือนมีนาคม ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามความกังวลปัญหา NPL กลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้นเป็นแรงกดดันต่อดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,540 - 1,575 จุด
ทั้งนี้แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ในหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2560 เติบโต แนะนำ PTTEP, PTTGC, TOP, BANPU และWICE รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปฏิรูปภาษีของสหรัฐเนื่องจากมีโรงงานตั้งอยู่ในสหรัฐ แนะนำ IVL และ EPG
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า โพลล์สำรวจการเลือกตั้งรอบสองของฝรั่งเศสประเมินว่านายเอ็มมานูเอล มาครอง จะได้เป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการลดโอกาสที่จะเกิด Frexit ไปจนแทบจะเป็นศูนย์ ส่วน Brexit คาดว่าจะราบรื่นขึ้นหลังการเลือกตั้งที่จะได้พรรครัฐบาลเดิมกลับมาสานงานต่อ ทำให้ความเสี่ยงของยูโรโซนในช่วงนี้เหลือเพียงเรื่องหนี้กรีซที่กำลังจะมีการเจรจาขอเงินช่วยเหลือรอบใหม่
ขณะที่ฝั่งสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศมาตรการปฏิรูปภาษี ซึ่งเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นและภาคธุรกิจในสหรัฐฯ หากมีผลตอบรับดี คาดว่าจะมีการนำเสนอแผนอเมริกันเฮลธ์แคร์ออกมา
ทั้งนี้ ราคาทองคำจึงถูกกดดันจากตลาดหลักใน 2 ภูมิภาคสำคัญของโลก แต่กองทุน SPDR ไม่มีการปรับพอร์ตมาตลอด 2 สัปดาห์ และ Commitments of Traders (COT) รายงานการเพิ่มสถานะอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนฝั่ง speculators สอดคล้องกับภาพทางเทคนิคที่มีแนวรับหนุนที่บริเวณ 1,260 ดอลลาร์ จึงมองการพักตัวของราคาในกรอบจำกัด โดยแนะนำให้เล่น swing trade และฝั่ง long ควร cut loss เมื่อราคาหลุด 1,260 ดอลลาร์