วิธีระงับเจ้ากรรมนายเวร​ ที่พระพุทธเจ้าสอน

28 ก.ย. 2565 | 19:30 น.

ทำมาธรรมะ​ โดย​ ราชรามัญ

อาจกล่าวได้ว่า ผู้ที่นับถือพุทธศาสนาในประเทศไทย ค่อนข้างที่จะคุ้นชินและคุ้นเคยกับคำว่า เจ้ากรรมนายเวร เป็นอย่างมาก

 

เจ้ากรรมนายเวรที่รู้จักและดูเหมือนสนิทกับชาวพุทธในบ้านเรา มักจะมีความเชื่อกันและกล่าวกันถึงเรื่องของวิญญาณ หรือสิ่งเร้นลับที่เหนือธรรมชาติ

 

หลายคนพยายามหาวิธีการที่จะทำให้ตัวเองสามารถหลุดพ้นจาก เหล่าวิญญาณและสิ่งเร้นลับที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของตัวเอง เพื่อให้มีชีวิตที่ดีงาม ทำอะไรก็สำเร็จ มีความสุขในชีวิต แล้วหลายคนอีกเช่นเดียวกันก็วิ่งเข้าหาพิธีกรรม ตามวัดวาอารามต่างๆ ที่ตนเองเคารพนับถือ เพื่อให้หลวงปู่-หลวงพ่อท่านสงเคราะห์ รดน้ำมนต์บ้าง เป่าคาถาให้บ้าง ซึ่งก็นับว่าเป็นการสร้างจิตที่เป็นกุศล ในส่วนหนึ่งให้ผู้คนได้พึ่งพาและเรียนรู้

หลายคนที่มีชีวิตกำลังเจริญรุ่งเรืองแล้ว อยู่ๆ ก็ต้องไปไม่ถึงดวงดาว คล้ายกับเพลงที่กล่าวว่ารักมิใช่ดวงดาวเมื่อพราวแสง จากนั้นก็มีความคิดที่ว่า สิ่งที่เกิดกับตัวเองนี้เป็นไปได้ไหม เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่มีซึ่งกันและกันได้มาจองเวรจองกรรมแล้วเราจะมีวิธีในการทำให้มันหายไปได้อย่างไร

 

บางคนก็อาศัยการสร้างทานบารมี ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน สวดมนต์ภาวนา เพื่อตอบโต้ต่อต้านสิ่งที่เรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรให้มันหมดๆ ไป ด้วยการเอาบุญกุศลนั้นมอบให้ไป และหวังว่าให้เขารับรู้และร่วมอนุโมทนา ซึ่งวิธีการนี้ก็เป็นวิธีการที่ดี เพราะอย่างน้อยก็ยังอยู่ในรอยบุญ รอยกุศล สร้างจิตของตัวเองให้เป็นกุศล ให้มีความเมตตา แล้วก็แผ่เมตตานั้น ไปสู่สากลโลก

 

แต่ถ้าเราจะพูดกันตามหลักแห่งความเป็นจริง เรื่องของเจ้ากรรมนายเวรว่ามีวิธีการระงับอย่างไร ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าเจ้ากรรมนายเวร มักจะเกิดขึ้นจากการกระทำ จากความคิดที่ผูกเวรซึ่งกันและกัน

เมื่อมีการผูกเวรซึ่งกันและกัน ผลของการผูกเวรนั้นก็ย่อมจะติดตามกันไปหลายภพหลายชาติ ตามแต่ว่าเราจะไปเกิดเป็นอะไร สิ่งที่ผูกเวรนั้นก็ย่อมจะไปสนองตามด้วย

 

พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงมีวิธีการเกี่ยวกับเรื่องเจ้ากรรมนายเวรนี้ ที่สามารถทำให้เบาบางลงโดยเริ่มต้นจากที่ตัวเราดังที่ปรากฏในพระไตรปิฎกว่า

 

"ในยุคไหนก็ตามเวรทั้งหลายไม่เคยระงับได้ด้วยการผูกเวรเลย แต่ระงับได้ด้วยการไม่ผูกเวรคำนี้เป็นของเก่าใช้ได้ตลอด" (-​จากบาลี​ อปริ.​ม. ๑๔/๒๙๕/๔๔๐)​

 

แม้แต่เรื่องที่มันเกิดขึ้นเราก็ไม่ควรมอง ในเชิงไปโทษว่า เป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรเข้ามาทำร้ายเรา​ เราเจ็บเราแค้น​ แต่ควรอาศัยวิธีระงับไม่ผูกเวร แล้วก็มีความเมตตา มีความกรุณาในหัวใจ แล้วหมั่นสร้างกุศลให้กับตัวเอง เพียงเท่านี้การระงับเรื่องเจ้ากรรมนายเวรย่อมเห็นผลมากกว่าการใช้พิธีกรรมแบบอย่างอื่น

 

เราใช้วิธีที่พระพุทธเจ้าแนะนำด้วยการระงับไม่ผูกเวรหรือไม่จองเวรกลับ และไม่โทษว่าเป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรทุกสิ่งอย่างก็จะเบาขึ้นไปตามลำดับ

 

ฝากไว้นะครับถ้าเราเคารพศรัทธาในพระพุทธเจ้า แล้วถ้าเราไม่ทำตามพระพุทธเจ้า แล้วศรัทธานั้นจะมีประโยชน์อะไร