MFEC แชร์หลักคิด "เต้าเต๋อจิง" เตือน ซีอีโอ "อย่าโชว์เหนือ"
ซีอีโอ MFEC เปิดมุมมองคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" แนะผู้นำลดอีโก้ ดึงศักยภาพทีมงาน สร้างปรากฎการณ์ WOW ให้องค์กร เผย อีโก้ มาจากการใช้สมองซิสเต็ม 1 โดยไม่กระตุ้น สมอง ซิสเต็ม 2 ที่เป็นการคิด-การเรียนรู้ มากเกินไป
นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MFEC นำเสนอมุมมองและแนวทางการบริหารคน จากคัมภีร์ "เต้าเต๋อจิง" ในงานเสวนาหลักสูตร Wealth of Wisdom ซึ่ง"ฐานเศรษฐกิจ" และ "กรุงเทพธุรกิจ" ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรสำหรับผู้นำ โดยอธิบายถึงการปกครอง ในแบบ "เต้าเต๋อจิง" มี 3 แบบ คือ
- ห่วยสุด มีแต่คนเกลียด
- ปกครองแล้วมีแต่คนขม ซึ่งไม่ได้หมายความว่า การปกครองแบบนี้คือดีสุด
- การปกครอง ที่ไม่มีคนรู้สึกว่าถูกปกครอง
ผู้นำที่ดี คือ ผู้นำที่ปกครองคนโดนเขาไม่รู้สึกว่าถูกปกครอง เราให้คนชมเราได้ บางเรื่องบางเวลา ไม่ใช่ชมตลอด การปกครองที่ดีที่สุด คือแบบที่ 3 เราต้องปรับสมดุลย์ไปเรื่อยๆ เป็นออโต้บาลานซ์ในองค์กรเราร้องจูนแล้วให้มันกลับมาสู่จุดสมดุลย์
บริษัทที่ดีคือ ซีอีโอ ต้องทำเสมือนว่า แม้ตัวเองจะไม่อยู่ องค์กรก็ยังดำเนินไปอย่างมีระบบ เหมือนมีการปกครอง แต่ระบบมันสมดุลย์ที่ปกครององค์กร
เคยมีลูกน้องถามว่า ทำไมเป็นซีอีโอ ต้องโชว์เหนือ สาเหตุก็เพราะ ซีอีโอมี Ego ทำให้แสดงอำนาจ แสดงความสามารถออกไปโดยอัตโนมัติแบบไม่รู้ตัว ถ้าเราเห็นหรือรู้ Ego ในตัวเองแล้วดับมันได้ ลูกน้อง ทีมงาน ก็จะแสดงออกถึงความสามารถของเขาออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพ
Command and Control มันไม่ใช่เรื่องดี ทำไมเรายังทำ คือ เรามี Ego เราต้องเรียนรู้ที่จะดับ Ego ซะ
ซีอีโอ MFEC ยังกล่าวอีกว่า ปัญญา แตกต่างจากความฉลาด ความฉลาดมักมี Ego แฝงอยู่เสมอ แต่ปัญญาไม่มี Ego จุดเริ่มต้นของปัญญา คือความว่างเปล่า ต้องไม่มี Ego ซึ่งจะทำให้เกิดความอยากเรียนอยากรู้ ทำให้เกิดปัญญา
ในโลกของซิสเต็มวัน มันมีไอเดียออกมาเรื่อยๆ ถ้าเราไม่เอาปัญญาไปจับ ความฉลาดจะทำให้เราแสดงมันออกมาเรื่อยๆ
เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมของคน จากตำราเล่มหนึ่งบอกว่า สมองคนเรามี 2 ระบบ (system) ระบบแรก คือ การคิดแบบอัตโนมัติ เช่น การตื่นขึ้นมาแล้วไปอาบน้ำแปรงฟัน เปิดทีวี ขับรถไปทำงาน ซึ่งสมองส่วนนี้มีอยู่ถึง 95-99% และสมองระบบ 2 คือ การเรียนรู้ และหากคนเราไม่พยายามกระตุ้นสมองระบบ 2 เขาบอกว่า อย่าไปอ่าน "เต้าเต๋อจิง" เลย เพราะมันไม่เกิดประโยชน์