นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานพร้อมด้วย Dr.Jos Vandelaer ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย รวมถึงผู้บริหาร บุคลากรจากกรมอนามัย และองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย เข้าร่วมงานการอบรม เรื่อง การประยุกต์ใช้การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นเครื่องมือในการพัฒนาเมืองสุขภาพดี พร้อมมอบรางวัลเครือข่ายเมืองสุขภาพดี SEAR (South-East Asia Region – ภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก) 4 เมือง ได้แก่
นายแพทย์ธิติ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้ขับเคลื่อนภารกิจการส่งเสริมสุขภาพประชาชนทุกกลุ่มวัย สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม
ภายใต้โครงการเมืองสุขภาพดี โดยการขับเคลื่อนดำเนินงานร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในการยกระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสู่การเป็นเมืองสุขภาพดีเพื่อผลลัพธ์นำไปสู่การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ ชุมชนสามารถจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม
สถานประกอบกิจการได้มาตรฐาน ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงบริการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ และได้รับการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มวัย รวมถึงเกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ
โดยในปี 2567 กรมอนามัยได้มีการสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการเมืองสุขภาพดีเข้าสู่การยกระดับเป็น เมืองสุขภาวะในระดับสากล ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก ซึ่งมีเมืองที่ได้รับรางวัลเครือข่ายเมืองสุขภาพดี (SEAR: South-East Asia Region – ภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก) จำนวน 4 เมืองดังกล่าว
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนเมืองสุขภาพดีต้องอาศัยการสร้างความร่วมมือ และการมีส่วนร่วมของประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วน ซึ่งการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยในการพัฒนาเมืองและขับเคลื่อนสู่เมืองสุขภาพดีและเป็นเครื่องมือในการจัดทำนโยบาย แผนงาน โครงการ ทั้งยังสามารถคาดการณ์ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรอบด้าน นำมาซึ่งมาตรการในการจัดการและป้องกันปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
กรมอนามัย ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในการศึกษา พัฒนา และถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ จึงได้จัดอบรม เรื่อง การประยุกต์ใช้การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นเครื่องมือในการพัฒนาเมืองสุขภาพดี เพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินงานพัฒนาเมืองสุขภาพดีของประเทศไทยและต่อยอดการดำเนินงานสู่เครือข่ายเมืองสุขภาวะในระดับสากล รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว