ผลวิจัยชี้ ยา "แพ็กซ์โลวิด" ช่วยลดความเสี่ยง "Long COVID"

07 พ.ย. 2565 | 03:42 น.
อัปเดตล่าสุด :07 พ.ย. 2565 | 10:42 น.

ผลวิจัยชี้ ยา "แพ็กซ์โลวิด" ช่วยลดความเสี่ยง "Long COVID" หมอธีระเผยผลศึกษาจาก Xie Y และคณะ จาก VA Saint Louis Health Care System ประเทศสหรัฐอเมริกา

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความ
7 พฤศจิกายน 2565

 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 169,753 คน ตายเพิ่ม 290 คน รวมแล้วติดไป 637,714,167 คน เสียชีวิตรวม 6,605,515 คน

 

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญึ่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ชิลี และฮ่องกง

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก

 

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็น 90.98% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 84.82%

ยา Paxlovid (แพ็กซ์โลวิด) ช่วยลดความเสี่ยง Long COVID 

 

Xie Y และคณะ จาก VA Saint Louis Health Care System ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่ผลการศึกษาใน medRxiv วันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา

 

ศึกษาจากฐานข้อมูลประชากร US Department of Veterans Affairs ในประชากรที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ตั้งแต่มีนาคมถึงมิถุนายน 2565 โดยเปรียบเทียบกลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัส Paxlovid จำนวน 9,217 คน กับกลุ่มที่ไม่ได้ยาต้านไวรัส 47,123 คน

 

ยาแพ็กซ์โลวิดช่วยลดความเสี่ยง Long COVID

 

พบว่ากลุ่มที่ได้ยา Paxlovid นั้นสามารถลดความเสี่ยงที่เกิดปัญหา Long COVID ได้ราวหนึ่งในสี่ (26%) 

 

นอกจากนี้ยังสามารถลดความเสี่ยงที่ป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลังจากหายป่วยช่วงแรก (post-acute hospitalization) ได้ราวหนึ่งในสาม (30%) และลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตหลังจากหายป่วยช่วงแรก (post-acute death) ได้ราวครึ่งหนึ่ง (48%) 

 

อย่างไรก็ตาม ประชากรในการศึกษานี้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ดังนั้นผลข้างต้นในกลุ่มประชากรที่อายุน้อยกว่า 60 ปีอาจยังต้องมีการติดตามศึกษาต่อไปในอนาคต แต่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่สะท้อนให้เห็นความหวัง

ในการป้องกันภาวะ Long COVID นอกเหนือจากการฉีดวัคซีนที่อาจช่วยได้ระดับหนึ่ง

 

สำหรับการรักษาผู้ป่วยที่เป็น Long COVID นั้น ยังไม่มียาใดที่ได้รับการพิสูจน์ผลในการรักษาได้ ทาง US NIH กำลังวางแผนวิจัยการใช้ยา Paxlovid ในการรักษาผู้ป่วย แต่จะเริ่มศึกษาตอนต้นปีหน้า กว่าผลจะออกมาคงประมาณปีถัดไป

 

ดังนั้นการป้องกันตนเองอย่างสม่ำเสมอ ใช้ชีวิตไม่ประมาท ลดละเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงและสถานที่เสี่ยง ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด และที่สำคัญมากคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องระหว่างออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ทำงาน ศึกษาเล่าเรียน หรือท่องเที่ยว จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

 

ไม่ติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อซ้ำ ย่อมดีที่สุด

 

จะได้ไม่ต้องทรมาน ทุกข์ใจ ภาวนา หรือรอลุ้นว่าจะเกิดปัญหาตามมาระยะยาวกับตัวเราหรือไม่

 

ด้วยความปรารถนาดีเสมอ