จีนพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มกว่า 1 หมื่นราย ลุ้นยกเลิก"Zero Covid"หรือไม่

05 ธ.ค. 2565 | 01:11 น.

จีนพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มกว่า 1 หมื่นราย ลุ้นยกเลิก"Zero Covid"หรือไม่ หมอเฉลิมชัยชี้รัฐบาลจีนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า  

 

จีนยังไม่ทันเลิกโควิดเป็นศูนย์ ก็พบผู้ติดโควิดเพิ่มนับหมื่น และเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย

 

จากสถานการณ์โควิดระบาดทั่วโลกมาเป็นเวลาสามปีแล้วนั้น ขณะนี้เหลืออยู่เพียงประเทศเดียวคือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ยังใช้นโยบายเข้มข้นหรือ โควิดเป็นศูนย์(Zero Covid)

 

จนสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อไว้ได้ที่ 336,165 ราย เสียชีวิตเพียง 5235 ราย จากจำนวนประชากรมากถึงกว่า 1,400 ล้านคน

 

อย่างไรก็ตามมาตรการทางสาธารณสุขในการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น จนได้ตัวเลขที่ดีเยี่ยมดังกล่าว ได้สร้างผลกระทบให้กับประชาชนจำนวนหนึ่งที่เกิดความทุกข์ และเกิดการประท้วงขึ้นในหลายเมืองของจีน

 

ทำให้รัฐบาลจีนต้องเริ่มพิจารณาทบทวน ที่จะผ่อนคลายมาตรการเข้มข้นในบางพื้นที่ลง

 

แต่ในขณะที่ยังไม่ได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ก็เริ่มปรากฏจำนวนผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในประเทศจีนแล้ว

 

โดยพบว่าที่เมืองกวางเจา เมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งมีพลเมือง 19 ล้านคนนั้น

ได้พบผู้ติดเชื้อในระลอกใหม่ มากถึง 162,700 ราย ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่คือ 90% ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ และยังไม่พบผู้เสียชีวิต

 

ด้วยศักยภาพของเมืองกวางเจา ซึ่งมีเตียงมากถึง 90,000 เตียง และไอซียู 2000 เตียง จึงยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

 

ในช่วงที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งและเมืองเซี่ยงไฮ้ ก็พบผู้ติดเชื้อขยับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
และล่าสุด ในวันที่ 3 ธันวาคม 2565 ได้พบผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มอีก 2 ราย โดยก่อนหน้านี้เมื่อถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 พบผู้เสียชีวิต 3 รายที่กรุงปักกิ่ง เป็นผู้สูงอายุวัยระหว่าง 87-91 ปี

 

จีนพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มกว่า 1 หมื่นราย

 

สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนของประเทศจีนนั้นพบว่า ฉีดไปแล้ว 90% ของประชากรทั้งหมด (ตัวเลขวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565)

 

แต่ปัญหาคือผู้สูงอายุ ที่มีวัยมากกว่า 80 ปี ฉีดวัคซีนไปแล้วเพียง 65.7%

 

จึงทำให้ทางการจีนต้องระมัดระวังเรื่องการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดเป็นอย่างมาก

 

โดยที่สิงคโปร์ได้ฉีดวัคซีนให้คนอายุมากกว่า 80 ปี ไปแล้ว 90%

สหรัฐอเมริกาได้ฉีดให้คนอายุมากกว่า 75 ปี ไปแล้ว 90%

 

ส่วนประเทศไทย ฉีดให้คนอายุมากกว่า 60 ปี ไปแล้ว 63.6%

 

จึงเป็นเรื่องที่สร้างความลำบาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หรือเรียกว่าอิหลักอิเหลื่อ สำหรับรัฐบาลจีนว่า

 

จะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เร็วช้ามากน้อยเพียงใด

 

เพราะถ้าผ่อนคลายช้าไป ก็จะมีการประท้วงของประชาชน

 

ถ้าผ่อนคลายเร็วไป ก็อาจจะมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น