โควิด19ในจีนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 6 เดือนติดเชื้อกว่า 1.6 หมื่นราย

15 พ.ย. 2565 | 01:15 น.

โควิด19ในจีนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 6 เดือนติดเชื้อกว่า 1.6 หมื่นราย หลังเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการบางส่วน

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

โควิดในจีนพุ่ง 16,072 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 6 เดือน

 

ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid) ที่รัฐบาลประเทศจีนได้ใช้มาตลอดเกือบสามปีที่ผ่านมา

 

และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า เป็นวิธีที่ควบคุมมิติทางสาธารณสุขได้ดีที่สุดในโลก โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต เมื่อคิดเป็นสัดส่วนกับประชากรแล้วถือว่าต่ำมาก

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สถานการณ์ทางสาธารณสุขดีขึ้น ก็เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากประชาชน อยากให้รัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการต่างๆลงบ้าง เพื่อให้มิติทางเศรษฐกิจและสังคมไม่ถูกเข้มงวดมากเกินไป
 

แต่ทางการจีนก็ยังคงเข้มงวดมาโดยตลอด จนในระยะหลังจึงเริ่มมีการผ่อนคลายให้บ้างบางส่วน เช่น การล็อกดาวน์แบบให้ทำธุรกิจต่อไปได้ แต่ไม่ให้คนงานออกจากบริเวณของโรงงาน เช่น ที่เมืองเจิ้งโจว
 

บริษัทฟ็อกซ์คอน (FoxConn) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือแอปเปิ้ลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้รับการผ่อนคลายดังกล่าวด้วย

 

โควิด19ในจีนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 6 เดือน

 

นอกจากนั้น ยังเริ่มมีการผ่อนคลายลงบางส่วน ในเรื่องการกักตัว และในเรื่องการเดินทางด้วย

 

จนในวันที่ 14 พ.ย. 2565 ได้มีข่าวจำนวนผู้ติดไวรัสก่อโรคโควิดพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องรายวัน จนทำลายสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่ 25 เมษายน 2565 ซึ่งมีการระบาดที่นครเซี่ยงไฮ้

 

โดยในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2565 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศ มากถึง 16,072 ราย

 

 

แยกเป็นผู้ติดเชื้อ

  • เมืองกวางโจว 4065 ราย
  • เมืองเจิ้งโจว 2981 ราย
  • นครปักกิ่ง 407 ราย

 

ทำให้ทางการจีน โดย คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ ( NHC : National Health Commission) ออกมาแถลงว่า นโยบายเรื่องโควิดของจีนจะยังคงความเข้มข้นต่อไป

 

เมื่อเปรียบเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าว กับประเทศในซีกโลกตะวันตกแล้ว ต้องถือว่าสถานการณ์ของจีนดีกว่ามาก

 

เพียงแต่ด้วยมาตรฐานและความเข้มงวดจริงจัง จีนก็ถือว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นปัญหาที่ต้องเร่งรีบแก้ไขต่อไป