คลินิกแก้หนี้ รวมหนี้เป็นก้อนเดียว จ่ายบัตร-สินเชื่อไม่ไหว เช็คได้ที่นี่

06 มกราคม 2565

ตรวจสอบคุณสมบัติ ขั้นตอน วิธีการลงทะเบียนร่วมโครงการรวมหนี้เป็นก้นอเดียว กับ คลินิกแก้หนี้ สำหรับผู้ที่มีหนี้บัตรเครติด หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ที่จ่ายไม่ไหว มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง สรุปให้ที่นี่

ฐานเศรษฐกิจ นำคุณผู้อ่านมารู้จักโครงการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว กับ "คลินิกแก้หนี้" เนื่องสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ทำให้ประชาชนหลายคนรายได้หดหาย ตกงาน ไม่มีกำลังที่จะชำระหนี้ ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล 

ทั้งนี้ โครงการคลีนิกแก้หนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี2560 โครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 1 เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มของ "ธนาคารแห่งประเทศไทย" ด้วยความร่วมมือจากสมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารเจ้าหนี้ให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้เบ็ดเสร็จครบวงจรในที่เดียว 

คลินิกแก้หนี้ รวมหนี้เป็นก้อนเดียว จ่ายบัตร-สินเชื่อไม่ไหว เช็คได้ที่นี่

ธนาคารเจ้าหนี้ 16 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ มอบหมายให้ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยงระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ทุกราย ควบคู่กับการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการวางแผนและวินัยทางการเงินที่ดี เพื่อสร้างค่านิยมที่ถูกต้องด้านการลดความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย และสร้างเสริมสุขภาพทางการเงินที่ดีให้แก่คนรุ่นใหม่ในสังคม นำไปสู่การลดปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนทั้งทางตรงและทางอ้อม

ต่อมาปี 2562 โครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 2 ขยายขอบเขตให้รวมลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของผู้ประกอบการ non-bank 19 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกหนี้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป ทำให้โครงการคลินิกแก้หนี้สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกในการแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างได้อย่างกว้างขวางและครบวงจรอย่างแท้จริง

คลินิกแก้หนี้ รวมหนี้เป็นก้อนเดียว จ่ายบัตร-สินเชื่อไม่ไหว เช็คได้ที่นี่

ปี 2563 โครงการคลินิกแก้หนี้เดินหน้าเข้าสู่ “ระยะที่ 3” โดยได้ขยายขอบเขตให้สามารถแก้ไขหนี้บัตรที่มีเจ้าหนี้รายเดียว และหนี้บัตรที่อยู่ในกระบวนการของศาลและมีคำพิพากษาแล้ว รวมทั้งปรับปรุงคุณสมบัติผู้เข้าโครงการจากเดิมต้องมีหนี้บัตรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 มาเป็นวันที่ 1 มกราคม 2563 และปรับเงื่อนไขจากเป็นหนี้เสีย (NPL) ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 มาเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เมื่อช่วงปลายปี

ปัจจุบัน(2564)โครงการฯ ได้ปรับปรุงคุณสมบัติผู้เข้าโครงการจากเดิมต้องมีหนี้บัตรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 มาเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564

 

สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการคลีนิกแก้หนี้ มีดังนี้ 

  • ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
  • ขั้นตอนที่ 2 : กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มใบสมัคร
  • ขั้นตอนที่ 3 : จัดเตรียมเอกสารประกอบการเข้าร่วมโครงการ ดังนี้
  1. ใบสมัครเข้าร่วมโครงการ
  2. รายงานเครดิตบูโร
  3. สำเนาบัตรประชาชน
  4. สำเนาทะเบียนบ้าน
  5. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  6. เอกสารแสดงรายได้ (แยกตามกรณี)
  • กรณีพนักงานประจำ : สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน
  • กรณีอาชีพอิสระ : รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ (ตามแบบฟอร์มแนบท้ายใบสมัคร)    

 

  • ขั้นตอนที่ 4 : ส่งเอกสารมาที่ ตู้ปณ. 40 ปณฝ.ซันทาวเวอร์ส กรุงเทพฯ 10905 (แนะนำส่งผ่านไปรษณีย์ไทย เพื่อสามารถตรวจสอบการจัดส่งและป้องกันการสูญหายของเอกสาร)

คลินิกแก้หนี้ รวมหนี้เป็นก้อนเดียว จ่ายบัตร-สินเชื่อไม่ไหว เช็คได้ที่นี่

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการคลีนิกแก้หนี้ มีดังนี้

  1. อายุไม่เกิน 70 ปี ที่มีรายได้

  2. เป็นหนี้เสียสารพัดบัตร หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน

  3. เป็น NPL ก่อน 1 ต.ค. 64

  4. หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท

  5. ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือน ก.ย. 64 มีสถานะค้างชำระ 91-120 วันขึ้นไป

 

ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการคลีนิกแก้หนี้

  • ไม่ถูกทวงถามจากเจ้าหนี้หลายราย
  • แก้ไขหนี้หลายรายได้ครบ จบในที่เดียว
  • ทำสัญญาแก้หนี้เพียงฉบับเดียว
  • ผ่อนสบายๆ ตามตารางชำระหนี้
  • ผ่อนได้ยาวๆ ไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ยขั้นต่ำ 5% ต่อปี
  • ไม่ก่อหนี้เพิ่ม ไม่ต้องพึ่งหนี้นอกระบบ

คลินิกแก้หนี้ รวมหนี้เป็นก้อนเดียว จ่ายบัตร-สินเชื่อไม่ไหว เช็คได้ที่นี่

 

ที่มาข้อมูล