จับตาพรุ่งนี้ 14 กันยายน วิพากษ์ผลการศึกษาโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร

13 ก.ย. 2565 | 07:55 น.

วันพรุ่งนี้ 14 กันยายน จับตา วิพากษ์ ผลการศึกษาโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร จุดอ่อน-จุดแข็ง ตอบโจทย์เกษตรกรหรือไม่ นายกสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน เผยจุดอ่อน ประกันรายได้ข้าว ขึ้นทะเบียนสับขาหลอก ทำให้รัฐเสียหาย แฉ ข้าวจัสมิน อีสานบูม โรงสีอุบลรับซื้อทุกเมล็ด

จับตาพรุ่งนี้ 14 กันยายน วิพากษ์ผลการศึกษาโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร

 

นายธีร์วริศ พรพันธวิศ นายกสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” วันพรุ่งนี้ (14 กันยายน 2565)  กรมการค้าภายใน ได้มอบหมาย ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการศึกษาวิจัย “โครงการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร (ข้าว,มันสำปะหลัง,ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน) และศึกษาทิศทางแนวทางการดำเนินการในอนาคต นั้น

 

“ในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมเกษตรชาวนาอีสาน เห็นชอบในการดำเนินโครงการประกันรายได้ข้าว ตามนโยบายรัฐ ส่วนเรื่องการขึ้นทะเบียนข้าวและสินค้าเกษตร ใน พืช 5 ชนิด สับขาหลอกในการขึ้นทะเบียนโดยเกษตรกร ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะปลูกข้าวพันธุ์อื่นแต่แจ้งเป็นข้าวหอมมะลิเพื่อรับส่วนต่างสูงสุด ทำให้รัฐบาลเสียหาย จะโดนย้อนศรจาก “จำนำข้าว” นโยบายต่างพรรค ที่จะนำมาตีโต้ได้ในจับทุจริตในโครงการประกันรายได้เกษตรกร 5 พืช ดังนั้นอยากให้หน่วยงานทุกหน่วยต้องเอาจริง

 

 

 

จับตาพรุ่งนี้ 14 กันยายน วิพากษ์ผลการศึกษาโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร

 

 

 

นายธีร์วริศ กล่าวว่า ในเรื่องคลัสเตอร์ข้าว ขอให้มีความชัดเจน อย่างกรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) เน้นเรื่องข้าวภาคอีสานทั้งหมด โดยให้กรมการข้าวเป็นผู้รับรองพื้นที่การปลูกร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร ไม่ใช่เอา "กข43" มาปลูกรวมกลุ่มกับข้าวหอมมะลิ หรือ นำข้าวจัสมิน มาปลูกกับข้าวหอมมะลิ  ยกตัวอย่าง โซนจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มโรงสี สนับสนุนให้ชาวนาปลูกข้าวจัสมิน หรือ ข้าวหอมพวง ซึ่งมีแรงจูงใจให้ชาวนาปลูก โดยรับซื้อทุกเมล็ด แล้วข้าวหอมพวงผลผลิตต่อไร่สูง เวลาที่ใช้ในการเก็บเกี่ยวระยะเวลาใกล้เคียงกันดี ประกอบกับโรงสีมีการส่งเสริม

 

 

“เมล็ดพันธุ์จัสมิน กับข้าวหอมมะลิ ลักษณะจะเหมือนกันมาก ดีกว่าข้าวหอมปทุมธานี ดีกว่าข้าว กข79  แล้วราคาไม่แตกต่างกัน ถึงแม้กรมการข้าวจะออกมาต้าน ก็ไม่อยู่หรอก เพราะโรงสี ส่งออก สนับสนุนอยู่ ขายได้ในตลาดด้วย แล้วที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่ากรมการข้าว ยังวิจัยไม่ตอบโจทย์ความต้องการของชาวนา จึงทำให้พันธุ์นี้ครองตลาด”

 

จับตาพรุ่งนี้ 14 กันยายน วิพากษ์ผลการศึกษาโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร

 

นายธีร์วริศ กล่าวว่า ตอนนี้สมาคมกำลังที่จะผลักดันข้าวหอมมะลิสุรินทร์อินทรีย์ ยี่ห้อ 249  ให้เป็นสินค้าขึ้นทะเบียน “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” หรือ (Geographical Indication: GI) นี่เป็นนโยบายที่กำลังผลักดัน