I’m Chinatown จุดเช็กอินใหม่ มิกซ์ยูสผืนสุดท้าย @ เยาวราช
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้... บรรยากาศวันตรุษจีนปีนี้ดูแล้วก็ยังคึกคัก เหล่าลูกหลานคนจีน ก็ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไหว้บรรพบุรุษและก็ตามมาด้วยการท่องเที่ยว ปีนี้ผู้คนย่านเยาวราชมีสถานที่ใหม่ที่เพิ่งเปิดเป็นทางการ “โครงการ I’m Chinatown หรือ แอมไชน่าทาวน์” ตั้งอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีวัดมังกร อยู่ใกล้วัดเล่งเน่ยยี่ เดินถัดขึ้นมาอีกถนนหนึ่ง ซึ่งก็คือแหล่งอาหารสตรีตฟู้ดขึ้นชื่อของเยาวราช...ถ้าเดินย้อนขึ้นมาอีกก็คือสำเพ็ง สะพานหัน พาหุรัด เรียกว่าโครงการนี้อยู่บนทำเลทองที่ดีทีเดียว ทีมงานจะขอพาไปชมกันว่าที่นี่น่าสนใจอย่างไรบ้าง
“แอมไชน่าทาวน์” แห่งนี้มีพื้นที่ขนาด 40,000 ตร.ม. บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ มูลค่าโครงการราว 3,000 ล้านบาท นับเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่สุด เป็นโครงการแรกที่มีการก่อสร้างในย่านนี้ภายในรอบ 30 ปี ด้วยการนำพื้นที่โรงหนังสิริราม่ามาพัฒนา การออกแบบจึงเป็น สไตล์ Modern Chinese ในโครงการมี 3 ส่วน ด้วยกัน
ส่วนแรก คือ โรงแรมที่พัก จับมือกับเครือโรงแรมระดับโลกอย่างดุสิตธานี ใช้ชื่อโรงแรม “อาศัย” (ASAI) ระดับ 4 ดาว จะเปิดให้บริการตั้งแต่ชั้น 4 - 8 ของอาคารศูนย์การค้า ตัวโรงแรมออกแบบเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เน้นการเข้าถึงวิถีชุมชน หรือ “Live Local” มี 224 ห้อง จะรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก คาดว่า 40% จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน รองลงมาจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี และยุโรป ด้วยแนวคิดการมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าได้สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ที่มีเอกลักษณ์กลิ่นอายของเยาวราช สร้างความเข้าถึงความเป็นท้องถิ่น คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
ส่วนที่ 2 เป็น เรสิเดนซ์ คอนโดมิเนียมตกแต่งเสร็จพร้อมอยู่ 8 ชั้น สร้างแยกออกไปอยู่ด้านหลังศูนย์การค้า ใช้ชื่อ “I’m Chinatown Residence” ซึ่งย่านนี้ยังหาคอนโดฯยากอยู่ จึงเป็นการตอบสนองผู้ที่หาที่พักอาศัยในย่านนี้ มีพท.ตั้งแต่ 20.5 - 24.75 ตร.ม. ราคาขายหน่วยละตั้งแต่ 3.9 ล้านบาทขึ้นไป แต่ขายแบบลีสโฮลด์ 30 ปี ซึ่งก็ปิดการขาย 100% ไปเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าที่สนใจก็เป็นกลุ่ม เจ้าของกิจการและผู้ประกอบการที่มีธุรกิจภายในย่านนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตกแต่งเร่งส่งมอบห้องชุดให้ลูกค้า
ส่วนที่ 3 รีเทล-คอมมิวนิตี มอลล์ พื้นที่ชั้น 1-3 รวม 10,000 ตร.ม. 80 ร้านค้า มีอาคารจอดรถได้ 300 คัน โดยมีร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารยอดนิยมที่ทันสมัย ร้านอาหารดังและสตรีตฟู้ด ที่มีเสน่ห์ของเยาวราช ศูนย์รวมของฝาก มีการนำแบรนด์ร้านค้าที่ไม่เคยมีมาก่อนในเยาวราชมาเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นตัวเลือกใหม่ๆ ให้ชุมชน และเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าในเยาวราชเข้ามาเปิดบริการในศูนย์ เพื่อเป็นการเปิดตลาดและขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับหลายๆ ร้านค้าในย่านเอง
แยกเป็นส่วนของชั้น B1 เป็นส่วนของพื้นที่ร้านค้าสะดวกซื้อและร้านบริการ อย่างร้าน 7-Eleven, Kerry Express, ร้านขายยา, CleanMate, Kamu, Nara Gem, B’me by Wacoal, Beauty Maker, Vision and Cafe’, ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ชื่อดังอย่าง King Kong บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ยากินิคุ และ King Kong Sweets ร้านขนมหวานยอดนิยมต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น มี Gourmet Thai ซึ่งเป็นสแตนด์อโลนช็อปแห่งแรกที่เปิดนอกพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ภายในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป คัดสินค้าคุณภาพจาก Gourmet Market สาขา ต่างๆ มาจำหน่ายที่นี่ เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ
ขยับขึ้นมาที่ชั้น G และ ชั้น 2 แหล่งรวมร้านอาหารหลากสไตล์ ทั้งร้านอาหารแนวครอบครัวอย่าง ร้านสุกี้ MK, KFC, Yayoi, Hachiban Ramen ร้านตำมั่ว ร้านอาหารแนวไลฟ์สไตล์ อย่าง ร้าน Munchy Bar and Restaurant, Ryo Shi ซูชิบาร์ และ New York 5th Ave. Deli ร้านแซนด์วิชสไตล์อเมริกันระดับพรีเมียมสาขาแรกในกรุงเทพฯ
ร้านเครื่องดื่มของหวานชั้นนำอย่าง Starbucks, Krispy Kreme, Dairy Queen, Swensen, Jamba Juice, ชานมไข่มุก CoCo, Olino Crepe & Tea, ร้านไอศกรีม Stickhouse และร้านชาผลไม้อันดับ 1 ของไต้หวันอย่าง Yi Fang ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในไทย และศูนย์อาหารที่รวบรวมสตรีตฟู้ด ชื่อดังจากทั่วกรุงเทพฯ มาให้ได้ลิ้มรสกัน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าแนวไลฟ์สไตล์แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Wacoal, แว่นท็อปเจริญ, Beauty Station, และ Daiso อีกด้วย
สำหรับชั้น 3 เป็นร้านที่เปิดให้บริการด้านสุขภาพและความงาม อย่าง Together Clinic, The Sense Beauty Center, Jetts Fitness ฟิตเนสเต็มรูปแบบแห่งแรกของย่านเยาวราช เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และ Let’s Relax Spa สปาระดับพรีเมียมแห่งแรกและใหญ่สุดในย่านเยาวราช ซึ่งในส่วนของ Zone นี้เปิดให้บริการแล้ว ที่พบเห็นก็จะเป็นทั้งชาวต่างชาติ มากันเป็นครอบครัว ผู้สูงอายุจูงมือกันมา ไปจนถึงเหล่าพนักงาน ที่แวะเวียนเข้ามาใช้บริการกัน
“แอมไชน่าทาวน์” จึงเป็นเสมือนประตูสู่ใจกลางเยาวราช แม้จะไม่มีที่ช็อปปิ้งมากมาย แต่อาศัยจุดแข็งของร้านอาหาร ที่มีให้เลือกมากสักหน่อย ทำให้เป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ได้อย่างสบายๆ...
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,543 วันที่ 26 - 29 มกราคม พ.ศ. 2563
