โรคสมองเสื่อม...เชื่อหรือไม่ว่าคือโรคดีๆนี่เอง ไม่เร็วก็ช้าเราท่านอาจจะเข้าสู่โรคนี้โดยไม่รู้ตัว คนมักเข้าใจว่าโรคนี้คืออัลไซเมอร์ แต่ทว่าเป็นเพียงแค่หนึ่งของโรคสมองเสื่อมแต่ยังมีอีก 3-4 ประการที่ร่วมกันอยู่ และอาการสมองเสื่อมเป็นอาการหลักที่ทำให้เกิดผลกระทบกับบุคคลคืออาการหลงลืมนั่นเอง ส่วนอาการร่วมคือปัจจัยแวดล้อมที่ผู้ป่วยเผชิญอยู่ และนี่เองที่ทำให้บุคลิก อารมณ์และพฤติกรรมของคนคนนั้นเปลี่ยนแปลงไป ...ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อน เพราะสุดท้ายอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้เหมือนกัน
พูดคุยกับ “นายจุนอิชิโร่ ซาโต้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮันโนะ-เวชพงศ์ เจริแอทริค เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ถึงความสำคัญของการเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ฮันโนะ-เวชพงศ์ ว่า ปัจจุบันประเทศไทยก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ (Aging society) ประชากรสูงวัยอายุตั้งแต่ 65 ปี จำนวน 7% ของประชากรทั้งหมด และในปี 2563 นี้แหละที่ไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ (Aged society) คือผู้สูงวัยมากถึง 14% และปัจจุบันจำนวนผู้มีภาวะสมองเสื่อมในไทยมีเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงเล็งเห็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งส่งเสริม ให้ความรู้ความเข้าใจ และเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม และวิธีการดูแลผู้สูงอายุแบบวิถีคนญี่ปุ่นที่ถูกต้องมาสู่สังคมไทย และที่สำคัญศูนย์แบบนี้ยังไม่มีในประเทศไทย
“จึงมองหาผู้ลงทุนร่วม ประจวบกับทางเวชพงศ์เองก็มีความสนใจ จึงได้จับมือร่วมกัน เพราะเวชพงศ์อยู่ในสายธุรกิจตลาดยาไทยและยาจีนมายาวนาน จึงมีความรู้และเชี่ยวชาญตลาดของไทย ส่วนทางผมมีประสบการณ์การด้านการดูแลผู้มีภาวะสมองเสื่อมกว่า 20 ปี เพราะมีโรงพยาบาลด้านสมองเสื่อมที่เมืองฮันโนะ ประเทศญี่ปุ่น เลยเป็นการจับมือร่วมทุนที่ลงตัว”
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุฮันโนะ-เวชพงศ์ เน้นการดูแลผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม ด้วยเทคนิควิธีการแบบญี่ปุ่น ด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้มีภาวะสมองเสื่อมที่ยาวนาน การดูแลที่เหมาะสมที่สุด แม้จะไม่มีนวัตกรรมใหม่ๆแต่สิ่งที่มหัศจรรย์กว่า คือ “การเข้าใจความเป็นมาและกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุ” รวมถึงนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับการดูแลแต่ละท่าน แต่จะดูแลให้ได้ผลจริง ผู้ดูแลหรือญาติๆ ต้องบอกรายละเอียดให้มากที่สุด สิ่งแรกที่ต้องทำคือการให้บริการด้วยความเคารพ ให้เกียรติ และดูเเลผู้สูงอายุทุกท่านเสมือนเป็นบุคคลในครอบครัว พร้อมส่งเสริมให้ผู้สูงอายุไทยที่มีภาวะโรคสมองเสื่อม ให้สามารถทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองให้ได้มากที่สุด เช่นการรับประทานอาหารด้วยตนเองไม่ให้มีการป้อน
คุณจุนบอกว่าการที่ผู้ดูแลมักว่ากล่าวซ้ำๆกับผู้สูงอายุที่มักหลงลืมนั้น จะเป็นการลดความมั่นใจของผู้สูงอายุ เป็นการผลักดันให้เกิดพฤติกรรมแปรเปลี่ยนไปเป็นคนก้าวร้าวได้ ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ผู้สูงอายุสามารถทำกิจกรรมเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง ต้องใช้ใจและเข้าใจผู้สูงอายุ ที่นี่จึงต้องเน้นบุคลากรที่มีความจริงและให้ใจ เพราะเมื่อทำได้จะเป็นการสร้างความภูมิใจและความมั่นใจให้แก่ตัวท่านในการดำรงชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่ความสัมพันธ์อันดีแก่สมาชิกครอบครัวทั้งของผู้สูงอายุและคนในครอบครัว
การทำกิจกรรมของที่ศูนย์นี้มี กิจกรรมสันทนาการกระตุ้นสมอง แบบ ไปเช้า-เย็นกลับ (Day Care) ช่วยในการฝึกพัฒนา กระตุ้นสมอง และ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้เข้าสังคม และมาพักค้างแรม ระยะสั้นและระยะยาวรายเดือน มีห้องพัก 42 ห้อง รองรับผู้สูงอายุได้ 54 ท่านโดยเจ้าหน้าที่ 1 คนต่อผู้สูงอายุ 3 ท่าน ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก ย่านทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา โดยกิจกรรมที่จะทำนั้นจะปรับให้เข้ากับแต่ละบุคคล เช่น ทำสวนถาด ทำอาหารแบบง่ายๆ ร้องเพลงคาราโอเกะ การนวดไทย ทำซาลอน เล่นกีฬา ตีปิงปอง เป็นต้น
มีกิจกรรมฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ โดยนักกายภาพบำบัด ฝึกเดิน วารีบำบัด ดนตรีบำบัด และอาหารทุกมื้อ ดูแลโดยนักโภชนาการและนักกำหนดอาหาร ที่สำคัญเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งแรกในไทย ที่มีบ่อน้ำอุ่นออนเซ็นให้บริการแก่ผู้สูงอายุ เพื่อช่วยในการไหลเวียนของเลือดให้ส่งไปเลี้ยงสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่เพื่อความปลอดภัยทุกขั้นตอนจะใช้ผลจากการวินิจฉัยของแพทย์มาเป็นตัวประกอบในการดูแลด้วย
การดูแลผู้เป็นสมองเสื่อมนี้ไม่ใช่การดูแลง่ายๆ ทำให้ต้องคัดเลือกวัสดุอุปกรณ์ สำหรับสถานที่พักอาศัยด้วย ขนาดทางเดิน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ถูกออกเเบบเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ โดยใช้หลักมาตรฐานของโรงพยาบาลผู้สูงอายุฮันโนะของประเทศญี่ปุ่น เน้นหลักการป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ ใช้วัสดุหนาพิเศษในการปูพื้นห้อง เพื่อช่วยในการผ่อนแรงกระแทกหากเกิดการหกล้ม เลือกใช้เตียงนอนไฟฟ้าแบบมาตรฐานที่เหมาะสำหรับการพยาบาลด้วยการออกแบบตัวตึกภายใน ทางเดินเสมือนรูปโดนัต เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถเดินได้รอบโดยไม่เกิดความสับสน หรือความกังวล ที่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท
การทำกิจกรรมต่างๆ และความเข้าใจในตัวผู้สูงอายุ จะเป็นการช่วยปลุก กระตุ้นพลังสมองอีกครั้งซึ่งเป็นการช่วยชะลอความเสื่อมของสมองไม่ให้ถดถอยลงไป ดังนั้นเราท่านจึงควรดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะมีสัญญาณนำไปสู่ โรคสมองเสื่อม...
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,541 วันที่ 19 - 22 มกราคม พ.ศ. 2563