ปักหมุดเช็กอินฉบับเปิดศักราชปีหนู 2563 เอาฤกษ์เอาชัยกับสถานที่มงคล พาข้ามนํ้าข้ามทะเลไปถึงแดนภารตะ “อินเดีย”
ตอนนี้ยิ่งสบายกระเป๋ามากขึ้นเมื่อไทยสมายล์เปิดบินตรงสู่อินเดีย เรียกว่าเป็นการเปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ใน 7 เส้นทางที่บินตรงสู่ คยา, พาราณสี, ชัยปุระ, ลัคเนา มุมไบ กัลกัตตาและอาห์เมดาบัด ให้คนไทยได้เลือกเดินทางไปสัมผัสมนตร์เสน่ห์แห่งดินแดนชมพูทวีป ทั้งแหล่งท่องเที่ยว ที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตลอดจนดินแดนสังเวชนียสถานที่สำคัญได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยบริการแบบฟูลเซอร์วิส ตอกยํ้ามาตรฐานการบินและบริการยอดเยี่ยมระดับโลกและทำการบินเชื่อมต่อกับการบินไทยอย่างไร้รอยต่อ พอเปิดเส้นทางแบบนี้ทำให้การเดินทางแบบแสวงบุญของชาวพุทธเลือกที่จะไปเฉพาะแห่งได้ อย่างที่จะขอพาทุกท่านไปเยือนเมืองพาราณสี ซึ่งจากเดิมหากไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถานก็จะเดินทางแบบ
เร่งรีบ แต่ครั้งนี้เจาะไปสักการะเฉพาะแห่งก็จะมีเวลาพิจารณามากขึ้น
การชมเมืองครั้งนี้ เราตาม “ท่าน ว. วชิรเมธี หรือพระเมธีวชิโรดม” ไปแสวงบุญกัน เริ่มจาก เมืองสารนาถ ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงพาราณสี ชมวัดไทยในเมืองสารนาถ เป็นวัดไทยที่เกิดขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาวพุทธไทย อินเดียและนานาชาติ ซึ่งที่นี่รู้จักกันดีในชื่ออิสิปตนมฤคทายวัน หรือฤาษีปัตนมฤคทายวัน วัดนี้ตั้งอยู่ใกล้ สังเวชนียสถาน ที่จะได้สักการะธรรมเมกขสถูป สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา โปรดปัญจวัคคีย์ ลวดลายดอกไม้ที่รอบ องค์พระสถูปเป็นศิลปะของยุคคุปตะ แต่การสำรวจพบว่าแผ่นอิฐข้างในพระสถูปเป็นของยุคเมารยัน จึงสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอโศก
เดินโดยรอบ จะพบกับ ยสสถูป หรือยสเจดีย์ เป็นจุดที่นายยส ลูกเศรษฐีเมืองพาราณสี กราบและรับฟังพระธรรมซาบซึ้งจนขอบวชและบรรลุอรหันต์ ต่อมาท่านเศรษฐีพ่อและแม่
ได้มาตามลูก พอรับฟังพระธรรมเข้า ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาบันทันที
มูลคันธกุฎี สถานที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาแรกและพรรษาที่ 12 ชมเสาพระเจ้าอโศก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมเทศนา ประกอบด้วยทางแห่งความสงบและความหลุดพ้น บนยอดเสาเป็นรูปสิงห์ 4 ตัว เสามีฐานบัวควํ่าและฐานเสาทั้ง 4 ด้านสลักเป็นธรรมจักรและรูปช้าง ม้า โค และสิงห์
ธรรมราชิกสถูป สถูปที่เคยเป็น ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาก่อน แล้วต้องไม่พลาดพิพิธภัณฑ์ สารนาถ ที่ได้จัดแสดงและรักษาโบราณวัตถุที่ขุดค้นได้ในบริเวณสารนาถ เช่นพระพุทธรูปพระโพธิสัตว์ เทวรูป เครื่องใช้สอยในยุคนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งประติมากรรมที่เป็นเลิศคือ พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่งดงามยิ่ง สิงห์อันเป็นตราราชการแผ่นดินของอินเดีย ชมสถูปเจาคันธี สร้างเป็นอนุสรณ์ที่ปัญจวัคคีย์ได้พบกับพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก
ซึ่งการเดินชมในสังเวชนีย-สถานแห่งนี้ นับเป็นสถานที่สงบ สามารถสวดมนต์นั่งสมาธิ เดินเวียนเทียนรอบพระสถูปได้ ก็จะทำให้จิตเรานิ่งสงบได้เป็นอย่างดี
การชมเมืองนี้พลาดไม่ได้กับการนั่งรถสามล้อชมเมืองพาราณสี เมืองหลวงของแคว้นกาสี เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปีเก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดีย และยังเป็นเมืองที่มีผู้คนอยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย ถือเป็นดินแดนแห่งการแสวงบุญสำหรับชาวพุทธทั่วโลก รวมทั้งเป็นดินแดน ชำระล้างบาปสำหรับชาวอินเดีย โดยเมือง พาราณสีนี้ถือเป็นเมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่เกิดของพระโพธิสัตว์หลายครั้ง ทั้งเป็นเมืองที่แม่นํ้าคงคาไหลผ่าน ซึ่งถือเป็นแม่นํ้าศักดิ์สิทธิ์ การทำพิธีใดที่ศักดิ์สิทธิ์ก็มักจะใช้นํ้าจากแม่นํ้านี้ไปประกอบพิธีด้วยเสมอ
หลังจากนั้นต้องห้ามพลาดอีกอย่างคือการ ล่องเรือในแม่นํ้าคงคา ชมความงามของมหานทียามรุ่งอรุณ มีพระอาทิตย์สาดแสงสีทองเป็นฉากหลัง มีฝูงนกบินวนเหนือนํ้าเป็นฝูงเมื่อมีการให้อาหาร สวยงามมาก พร้อมกระทงดอกไม้บูชาพระแม่คงคาแทนความน้อมสักการะแด่พระแม่คงคา ล่องเรือไปชมการอาบนํ้าชำระบาป ชมพิธีการเผาศพริมแม่นํ้า หากมีวรรณะสูงก็จะอยู่ชั้นบนมีเงินซื้อฟืนเผาจนหมดเป็นเถ้า ยากจนก็จะอยู่ด้านล่างมีเงินซื้อฟืนเท่าไหร่ก็เท่านั้น แต่สุดท้ายที่เผาหมดร่างและไม่หมดร่างทุกสรรพสิ่งก็จะโกยลงแม่นํ้าคงคา
เช่นกัน นับเป็นการปลงชีวิตได้อย่างดี
เรามาปิดท้ายกันที่พิธีคงคาอารตีหรือพิธีบูชาไฟ พิธีกรรมที่ปฏิบัติกันมาแต่โบราณเป็นการแสดงความเคารพสูงสุดต่อพระแม่คงคา แต่ไม่เพียงแค่บูชาไฟเท่านั้นยังมีหลายอย่างที่ใช้ในการประกอบพิธี เช่น สังข์ ระฆัง ธูป ภาชนะหรือหม้อใส่นํ้า การบูร ดอกไม้ กำยาน ตะเกียงนํ้ามันฆี พัดขนนกยูงและแส้หางจามรี
แค่ได้มาสักการะสังเวชนียสถานแห่งเดียวก็อิ่มบุญ อิ่มใจ มีแรงพลังที่จะเผชิญกับอุปสรรคต่อไป!!