อาศัยจังหวะหุ้นย่อตัว ทยอยซื้อเก็บได้ 

11 พ.ย. 2562 | 07:00 น.

ความหวังครั้งใหม่เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน และความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นวอลล์สตรีต ซึ่งทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 4 พฤศจิกายน หนุนตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้าง หลังจาก ลุ่มๆ ดอนๆ มานาน 

กูรูหุ้นจึงดาหน้าออกมาคาดการณ์กันว่า ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2562 ไปจนถึงไตรมาส 1 ปีหน้า รับผลบวกจากสภาพคล่องทั้งในและต่างประเทศไหลเข้า ไม่ว่าจะเป็น เม็ดเงินจากการอัดฉีดจากการทำนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการลดอัตราดอกเบี้ย เม็ดเงินจากกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และเพื่อการเกษียณอายุ (RMF) ซึ่งแต่ละปีจะมีเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท รวมถึงแรงส่งจากการท่องเที่ยว และนักลงทุนซื้อหุ้นในเทศกาลจ่ายปันผลอีกด้วย 

อาศัยจังหวะหุ้นย่อตัว ทยอยซื้อเก็บได้ 

ขณะเดียวกันยังมีการคาดการณ์กันว่า ปลายปีนี้มีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) ขึ้น หลังจากที่ได้รับการปรับแนวโน้มขึ้นไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นนี้จะส่งผลบวกต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าได้ในอนาคตด้วย  

หากย้อนดูสถิติ ตั้งแต่ปี 2553-2562 จะพบว่าหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 1 ของทุกปี จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยที่ 6.2% หรือเพิ่มขึ้นจากดัชนีปิดสิ้นปีประมาณ 90 จุด ซึ่งปรากฏการณ์นี้เป็นผลจากเศรษฐกิจไตรมาสแรกของทุกปี  จะได้รับแรงส่งจากการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้า และไตรมาสนี้เองนักลงทุนมักจะเข้าซื้อหุ้นเพื่อรอการจ่ายปันผล

ดังนั้นจึงมองว่า ในจังหวะที่ตลาดหุ้นย่อตัว จะเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นและรอขายทำกำไรเป็นรอบ โดยอาจถือเพื่อไปขายทำกำไรในช่วงปลายปี 2562 หรือขายทำกำไรอีกครั้งในช่วงปลายไตรมาส 1 ปีหน้า 

ดังนั้นใครที่คิดว่ามีเงินตุนไว้แล้วละก็ อย่ารอช้าอยู่ทำไม

หน้า 23 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,521 วันที่ 10 -13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

อาศัยจังหวะหุ้นย่อตัว ทยอยซื้อเก็บได้