พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก

04 พ.ค. 2562 | 10:32 น.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ โดยขบวนพระบรมราชอิสริยยศ  ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก

 เมื่อเวลา 16.43 น.วันนี้ (4 พ.ค.62) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพระราชอิสริยยศเพื่อทรงนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรประกาศพระองค์เป็นศาสนูปถัมภก  โดยพระสงฆ์ 80 รูปถวายพระพร ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม  จากนั้นได้ทรงเสด็จถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาทพระเทพบิดร และถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิ สดับปกรณ์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก

สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับพระที่นั่งพระราชยานพุดตานทองด้วยขบวนพระราชอิสริยยศยาตราจากเกยหน้าทวารเทเวศรักษา  พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยไปยังเกยวัดพระศรีรัตนศาสดาราม  เพื่อทรงประกาศพระองค์เป็นศาสนูปถัมภกในที่ชุมนุมสงฆ์  บรมวงศานุวงศ์และข้าราชการ ด้านริ้วขบวนนี้มีกำลังพลจากหลายภาคส่วนรวม 343 นาย  รวมระยะทางไปกลับ 500 เมตร  ถือเป็นรูปขบวนที่ย่อมาจากกระบวนพยุหยาตราสถลมารคให้สัญญาณการเดินด้วยจังหวะกลอง
 
จากข้อมูลของ คำเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขยายความถึง พระที่นั่งพุดตานทองไว้ว่า เป็นพระที่นั่งสำหรับประทับหย่อนพระบาทแบบเก้าอี้ ทำด้วยไม้สลักลายปิดทอง ที่ฐานประดับรูปเทพนม และครุฑ ด้านข้างทั้ง ๒ ด้านและด้านหลังประดับด้วยลูกกรงกลึงด้วยงาโดยรอบ หลังลูกกรงแต่ละด้านประดับแผ่นไม้แกะสลักปิดทองเรียกว่า ใบปรือ พระที่นั่งพุดตานทองนี้เมื่อทอดเหนือพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เรียกว่า พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในการเสด็จออกมหาสมาคม เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา รัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร พระที่นั่งพุดตานทองนี้ ติดห่วงไว้สำหรับสอดคานหาม เมื่อทรงใช้เป็นพระราชยานเรียกว่า พระราชยานพุดตานทอง ใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค”พระที่นั่งพุดตานทอง” พระที่นั่งสำหรับประทับหย่อนพระบาทแบบเก้าอี้

  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก

สำหรับปราสาทพระเทพบิดร ตั้งอยู่ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นอาคารจัตุรมุขทรงไทย ยอดปราสาททรงปรางค์ ประดับกระเบื้องเคลือบสีทั้งหลัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2398 เพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระราชทานนามว่า “พระพุทธปรางค์ปราสาท”
 ครั้นก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชวินิจฉัยว่าปราสาทแห่งนี้มีขนาดเล็กไม่เพียงพอแก่การพระราชพิธีต่างๆ จึงอัญเชิญพระเจดีย์กาไหล่ทองของรัชกาลที่ 4 มาประดิษฐานเป็นประธาน ถึงปลายรัชกาลเกิดเพลิงไหม้เครื่องบนหลังคาปราสาทและพระเจดีย์กาไหล่ทองจนหมดสิ้น
 
เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์เสร็จบริบูรณ์ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในพระบรมราชจักรีวงศ์ 5 พระองค์ และพระราชทานนามใหม่ว่า “ปราสาทพระเทพบิดร” จากนั้นรัชกาลต่อๆ มา โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ประดิษฐานเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน คือ พระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 8 ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก