หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์รายงานว่า เศรษฐกิจประเทศมาเลเซียครึ่งแรกปีนี้ขยายตัว 1.2% โดยการส่งออกมีมูลค่า 700,000 ล้านริงกิต (ประมาณ 6 ล้านล้านบาท) จากเป้าส่งออกทั้งปี 1.5 ล้านล้านริงกิต (ประมาณ 13 ล้านล้านบาท) ที่รัฐบาลตั้งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออก 1.46 ล้านล้านริงกิตในปีที่แล้ว
เดอะสตาร์อ้างคำสัมภาษณ์ นายออง คา ชวน (Ong Ka Chuan) รัฐมนตรีอุตสาหกรรมและการค้าระหว่างประเทศ ว่ามาเลเซียตั้งเป้าการส่งออกปีนี้รวมมูลค่า 1.5 ล้านล้านริงกิต โดยหวังว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะสามารถส่งออกได้ 800,000 ล้านริงกิตเพื่อทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
เดอะสตาร์ ระบุว่านายชวนพูดถึงการขยายตัวของการส่งออก หลังจากที่เริ่มการรณรงค์สร้างความรู้เกี่ยวกับข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) ให้แก่นักธุรกิจทั่วประเทศให้ได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าว
มาเลเซียเป็น 1 ใน 12 ประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลงเขตการค้าประเทศ 2 ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่ง มีนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นคนผลักดันและมีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันแล้ว และจะมีผลใช้บังคับหลังจากรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ที่ตกลงร่วมกันนำไปให้รัฐสภาของแต่ละประเทศลงสัตยาบันรับรองข้อตกลงดังกล่าวภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้
นายออง ได้กล่าวเตือนนักธุรกิจในประเทศให้เร่งพัฒนาแก้ไขจุดอ่อนของอุตสาหกรรมเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อช่วยทำให้มีการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าโดยระบุว่า “การขายสินค้าวัตถุดิบเพียงอย่างเดียวประเทศไม่ได้เงินมากเท่าที่ควร อุตสาหกรรมในประเทศจำเป็นต้องเพิ่มนวัตกรรม อย่างเช่นอุตสาหกรรมสินค้ายางพาราซึ่งขณะนี้บริษัทของมาเลเซียครองตลาดโลกอยู่ถึง 60%”
นายออง ยกตัวอย่างรายได้จากสินค้าส่งออก 700,000 ล้านริงกิตในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ว่ามาจากสินค้าจากอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ถึง 36% ขณะที่ในปีที่แล้วมาเลเซียมีรายได้จากสินค้าโภคภัณฑ์เพียง 117,000 ล้านริงกิต
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,182 วันที่ 11 - 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559