ขาดแคลนไฟฟ้ายังวิกฤติ เมียนมาโตไวผลิตไม่ทันใช้

21 มิ.ย. 2559 | 09:00 น.
แม้ว่าต่างชาติจะให้ความสนใจเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตและกระจายกระแสไฟฟ้าในเมียนมาเพิ่มมากขึ้นในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่กระทรวงไฟฟ้าและพลังงานแห่งเมียนมาก็ยอมรับว่า สถานการณ์การขาดแคลนไฟฟ้าในประเทศจะยังคงอยู่ต่อไปหากไม่มีการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนในเรื่องนี้

รายงานล่าสุดของกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานแห่งเมียนมาเปิดเผยว่า ปัจจุบัน เมียนมาสามารถผลิตกระแสไฟฟ้า 1,900 เมกะวัตต์จากโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำภายในประเทศ และอีก 800 เมกะวัตต์จากโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ แต่เมื่อมองในด้านอุปสงค์จะพบว่า กำลังการผลิตรวมดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าที่คาดว่าจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 5,660 เมกะวัตต์ในปีพ.ศ. 2563 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ รายงานของกระทรวงฯคาดว่าในช่วงปีดังกล่าว กำลังผลิตรวมภายในประเทศจะมีเพียงประมาณ 3,700 เมกะวัตต์เท่านั้น

การใช้ไฟฟ้าในเมียนมามีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 15 % โดยในปี 2558 มีความต้องการใช้ไฟฟ้า 2,800 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 1,370 เมกะวัตต์ในปี 2553 ส่วนปี 2559 นี้ รายงานคาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในเมียนมาจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,240 เมกะวัตต์ นักวิเคราะห์แสดงความกังวลว่า หากไม่มีการปฏิรูปในด้านอุปทานที่ดีขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ว่าก้าวการพัฒนาในเมียนมาอาจจะสะดุดขัดเพราะปัญหาการขาดแคลนกระแสไฟฟ้า

ทั้งนี้ กว่า 66% ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในเมียนมาเป็นกระแสไฟฟ้าที่มาจากโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ประมาณ 29% มาจากโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ และเพียง 3 % จากโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังถ่านหิน

สถานการณ์ขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในหลายพื้นที่ของเมียนมายังคงเป็นปัญหาสำคัญ โดยในปี 2553 มีการสำรวจพบว่า ในจำนวนครัวเรือน 10 ล้านครัวเรือน มีเพียงประมาณ 2.22 ล้านครัวเรือนเท่านั้นที่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ส่วนปี 2558 จำนวนครัวเรือนที่มีกระแสไฟฟ้าใช้มีเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.7 ล้านครัวเรือน รายงานของกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานแห่งเมียนมาประมาณการว่า ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า เกือบๆ 6.8 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นประชากร 35 ล้านคนของเมียนมา จะยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้อยู่นั่นเอง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559