‘Monexo Innovations’ อีกโมเดลความสำเร็จ ของธุรกิจสตาร์ตอัพในฮ่องกง

09 มิ.ย. 2559 | 10:00 น.
ฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางทางการเงินของโลกมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ด้วยความเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีความชำนาญในอุตสาหกรรมการเงินการลงทุนจึงดึงดูดภาคธุรกิจการลงทุนจากนานาประเทศให้เข้ามาประกอบธุรกิจในฮ่องกงเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเทคโนโลยีได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ภาคอุตสาหกรรมการเงินได้พยายามใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าและบริการทางด้านการเงินในรูปแบบใหม่ ๆ ให้ทันต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเพื่อดึงความสนใจจากลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ การบริการด้านการเงินรูปแบบใหม่นี้กำลังได้รับความสนใจหลายประเทศ นี่คือที่มาของธุรกิจ Fintech
Fintech มาจากคำว่า Financial และ Technology คือ การนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจการเงินและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การจ่ายเงินออนไลน์ การซื้อหุ้นออนไลน์ หรือการระดมทุนออนไลน์ เป็นต้นในบทความนี้ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (บีไอซี) จะเสนออีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจสตาร์ตอัพ Fintech ที่อยู่ในโครงการ Start-ups จัดตั้งขึ้นโดยบริษัทวิสาหกิจ Cyberport management ของรัฐบาลฮ่องกง นั่นคือ ธุรกิจ "Monexo Innovations"

ทำความรู้จักกับ Monexo

Monexo Innovations เป็นบริษัทสินเชื่อแห่งแรกในฮ่องกงที่ให้บริการปล่อยสินเชื่อ/การกู้ยืมเงินแบบ Peer-to-Peer lending ซึ่งเป็นกระบวนการให้กู้ยืมเงินระหว่างบุคคลโดยไม่ต้องผ่านสถาบันการเงินอย่างแต่ก่อน เช่น ธนาคาร หรือบริษัทเงินทุนต่าง ๆ โดยมี Monexo เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงระหว่างผู้ให้กู้ / กลุ่มนักลงทุนกับผู้กู้ยืมเพื่อให้ผู้ปล่อยกู้สามารถเลือกที่จะปล่อยเงินกู้ให้กับผู้กู้ที่ตนเองต้องการได้โดยตรง โดยใช้การวิเคราะห์ประวัติผู้กู้จากบริษัท Monexo ประกอบการตัดสินใจ

ในช่วงกลางปี 2557 Monexo Innovations ได้เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกผ่านเว็บไซต์ www.monexo.co อ้างอิงรูปแบบ Peer-to-Peer lendingจากประเทศอังกฤษ โดยเป็นตัวกลางสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจให้กับทั้งเจ้าของเงินกู้กับผู้กู้ยืมในฮ่องกง เน้นการให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสะดวกสบายและมีโครงสร้างชัดเจนโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ที่ต้องการเงินทุนในการต่อยอดธุรกิจอย่างทันท่วงที และเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs มีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากดอกเบี้ยเงินกู้น้อยลง รวมทั้งยังจะช่วยผู้ให้กู้ได้รับผลตอบแทนที่ดีโดยการสร้าง lending portfolio ให้กับผู้ให้กู้ด้วย Monexo เห็นว่า ด้วยการไหลเวียนของเงินลงทุนอย่างคล่องตัวระหว่างผู้ให้กู้กับ SMEs ผู้กู้ยืม จะช่วยสร้างฮ่องกงให้มีความแข็งแกร่งทางธุรกิจมากขึ้น

แนวทางการให้บริการของบริษัท Monexo

ปัจจุบัน Monexo เปิดให้บริการสินเชื่อเงินสดใน 2 รูปแบบ แบบที่ 1 คือ การกู้ยืมส่วนบุคคล (Personal Installment Loan) และ แบบที่ 2 คือ การกู้ยืมแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Rent Cash-in Loan) ซึ่งสามารถสมัครใช้บริการทั้ง 2 แบบได้บนเว็บไซต์ของ Monexo ในอนาคต Monexoได้วางแผนการขยายกลุ่มลูกค้าออกสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดยตั้งเป้าหมายว่าจะขยายธุรกิจตลาดสินเชื่อในสิงคโปร์และอินเดีย รวมถึงต้องการจะเปิดตลาดใหม่ ๆ ในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว

การให้บริการของ Monexo กับผู้ให้กู้

Monexo เปิดให้บริการผ่านเว็บไซต์ www.monexo.co เพื่อให้ผู้ให้กู้ลงทะเบียนกรอกประวัติส่วนตัวเพื่อขอใช้บริการและผู้ให้กู้จะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนฮ่องกงและบัญชีธนาคารในฮ่องกงเท่านั้น จึงจะสามารถขอใช้บริการได้ เมื่อผู้ให้กู้พร้อมที่จะให้เงินกู้แก่ผู้กู้แล้ว Monexo ก็จะกำหนดให้ผู้ให้กู้โอนเงินในจำนวนเงินที่ต้องการปล่อยกู้ไปยังบัญชีของ Hong Kong Trust Company (HKTC) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ Monexo มอบให้เป็นผู้บริหารจัดการและดูแลด้านการเงินไว้ล่วงหน้า หลังจากนั้น ผู้ให้กู้จะเข้าไปคัดเลือกผู้กู้ด้วยตัวเองจากรายชื่อที่ผ่านการตรวจสอบจาก Monexo แล้ว รวมทั้งพิจารณาระยะเวลาของการขอผ่อนจ่ายเงินกู้ จำนวนเงินกู้ ฯลฯ เมื่อเลือกตัวผู้กู้ที่ต้องการได้แล้ว Hong Kong Trust Company จะทำการโอนเงินกู้ยืมของผู้ให้กู้ไปยังบัญชีของผู้กู้และผู้ให้กู้จะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยในทุก ๆ เดือนตลอดระยะเวลาของการให้กู้ยืมตามที่ Monexo ได้กำหนดไว้ คือ 15% ต่อปี

การให้บริการของ Monexo กับผู้ขอกู้

ผู้ขอกู้ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนฮ่องกงและบัญชีธนาคารในฮ่องกงในการขอใช้บริการจาก Monexo และต้องทำการลงทะเบียนกรอกประวัติส่วนตัวผ่านเว็บไซต์ www.monexo.co เพื่อขอใช้บริการกู้เงิน หลังจากทำการลงทะเบียน Monexo จะตรวจสอบประวัติและแจ้งผลให้ผู้กู้ทราบภายในวันเดียวกัน หลังจากประวัติผ่านแล้ว ทางบริษัท จะนำรายละเอียดผู้กู้ลงประกาศเพื่อให้ผู้ให้กู้/นักลงทุนที่สนใจพิจารณาคัดเลือก เมื่อมีผู้ให้กู้/นักลงทุนที่ประสงค์จะให้กู้เงินแล้ว Hong Kong Trust Company จะทำการโอนเงินของผู้ให้กู้ไปยังบัญชีของผู้กู้ จากนั้นผู้กู้จะต้องชำระดอกเบี้ยเงินกู้รายเดือนตลอดระยะเวลาของการกู้ยืมตามที่ Monexo ได้กำหนดเอาไว้ คือ อัตราดอกเบี้ยระหว่าง 7- 20% ต่อปี

[caption id="attachment_60214" align="aligncenter" width="412"] Mr. Mukesh Bubna Mr. Mukesh Bubna[/caption]

ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร

Mr. Mukesh Bubna ผู้ก่อตั้ง และ CEO บริษัท Monexo Innovations มีประวัติการทำงานด้านการเงินการธนาคารมายาวนานกว่า 20 ปีและมีประสบการณ์การทำงานในหลายประเทศทำให้ Mr. Bubna ได้ เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในขบวนการกู้ยืมเงินของธนาคาร และได้แสดงความคิดเห็นว่าธนาคารมักจะเอารัดเอาเปรียบผู้กู้ยืมมากจนเกินไป Mr. Bubna เชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการไร้ความสามารถและการแข่งขันที่ไม่สมเหตุสมผลของธนาคารในฮ่องกง Mr. Bubna ได้กล่าวว่าบริษัทเงินทุนที่ได้รับใบอนุญาตในฮ่องกงมีจำนวนถึง 1,300 ราย ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า ธนาคารในฮ่องกงไร้ประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า ซึ่งความมุ่งหวังของMr. Bubna คือการสร้างระบบการเงินในฮ่องกงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Mr. Bubna มองเห็นโอกาสในการเป็นตัวเชื่อมโยงแบบ Peer-to-Peer lending ระหว่างผู้กู้ กับ ผู้ให้กู้แทนการกู้เงินจากธนาคาร ซึ่งนำเทคโนโลยีการประมวลผลข้อมูลที่ทันสมัยมาใช้ โดยได้แรงจูงใจจากรูปแบบการทำงานของ Lending Club ในสหรัฐอเมริกาที่ให้บริการกู้ยืมเงิน จนประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในข้ามปี

แน่นอนว่าการลงทุนในทุกประเภทย่อมมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ดังนั้น นักลงทุนต้องรู้จักบริหารความเสี่ยงและใช้ความรอบคอบในการพิจารณาเลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเองเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มั่นคงและไม่ถูกโกง ในปัจจุบัน ธุรกิจในอุตสาหกรรมการเงินได้เปลี่ยนไป ภาคธุรกิจได้ปรับตัวและนำเอาเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีก็ก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย คือ ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ

ธุรกิจการกู้ยืมเงินแบบ Peer-to-Peer lending นั้นจะสามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ เนื่องจากสามารถปลดล็อกปัญหาในการระดมทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่อาจได้รับการปฏิเสธเงินกู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน รวมถึงปัญหาจากหนี้นอกระบบได้ ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงอาจจำเป็นต้องมีแนวทางในการกำกับดูแลธุรกิจการกู้ยืมแบบ Peer-to-Peer lending ให้รัดกุมเพื่อป้องกันปัญหาการผิดชำระหนี้พร้อมกันของลูกหนี้ หากเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจในอนาคต

พบกับตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจสตาร์ตอัพในฮ่องกงรายอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.thaibizchina.com หรือบนช่องทางใหม่ www.facebook.com/thaibizchina

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,163 วันที่ 5 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559