เผยนโยบายส่งเสริมลงทุนเมียนมา เน้นอุตแรงงานสูง-เกษตร-อินฟราฯ

หนังสือพิมพ์อีเลฟเว่นเมียนมารายงานว่าสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งเมียนมากำหนดลำดับประเภทอุตสาหกรรมที่รัฐต้องการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ 3 อันดับแรกคืออุตสาหกรรมใช้แรงงานงานสูง อุตสาหกรรมเกษตรและโครงสร้างพื้นฐาน

อีเลฟเว่นเมียนมาระบุว่า นโยบายของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนฯ เน้นการสร้างงานให้แก่พลเมือง การสนับสนุนให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตและขยายการเพาะปลูก โดยการสร้างถนนเข้าสู่พื้นที่เกษตรและสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอาทิโรงสี เครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูป

สำนักงานส่งเสริมการลงทุนฯระบุว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐานนานาชาติเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยในขณะนี้ทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องการให้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างเร่งด่วน เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน จะตอบโจทย์ปัญหาของประเทศในเรื่องของการขนส่งคมนาคม พลังงาน อุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมอื่นๆ

อีเลฟเว่นเมียนมา ระบุว่าสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งเมียนมา ดำเนินการจัดอันดับการให้ความสำคัญต่อการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมของที่ดินสำหรับการลงทุนและการประสานงานให้เกิดผลประโยชน์แก่นักลงทุน
สำนักงานส่งเสริมการลงทุนฯ ได้เปิดเผยว่า สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและการประมง โรงแรมและการท่องเที่ยว การผลิตไฟฟ้า อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมไม้ เหมืองแร่ ก๊าซและน้ำมัน เป็นอุตสาหกรรมที่ต้องการส่งเสริม

ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2531 ถึงเดือนมีนาคม 2559 มีการลงทุนจากต่างประเทศในเมียนมารวมทั้งสิ้น 63,718 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.293 ล้านล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมก๊าซและน้ำมัน อุตสาหกรรมการผลิต สื่อสารโทรคมนาคม เหมืองแร่ โรงแรมและการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลได้วางแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีกำหนดให้การลงทุนจากต่างประเทศมีการขยายตัวเพิ่มในอัตราที่เร็วขึ้น

ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี รัฐบาลเมียนมาตั้งเป้าให้มีการลงทุนจากต่างประเทศ 6,000 – 8,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 216,000 – 288,000 ล้านบาท) ระหว่างปี 2560-3

Photo Cover : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,156 วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559