“ท่าขี้เหล็ก”ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ส่อแววเศรษฐกิจไข้จับซมยาว

04 ธ.ค. 2563 | 07:05 น.

“ท่าขี้เหล็ก” จังหวัดชายแดนของเมียนมาที่อยู่ติดกับจังหวัดเชียงรายของไทย ได้ชื่อว่าเป็นขุมทรัพย์ของธุรกิจและการค้าแนวชายแดน เป็นประตูสู่ใจกลางสามเหลี่ยมทองคำ เศรษฐกิจของท่าขี้เหล็กพึ่งพาการค้าแนวชายแดนและการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักและการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ถูกคุมเข้ม และมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ท่าขี้เหล็กวันนี้จึงแทบกลายเป็นเมืองร้าง  

 

ฉาน เฮอรัลด์ เอเจนซี ฟอร์ นิวส์ (SHAN) สื่อท้องถิ่นของ รัฐฉาน สะท้อนภาพบรรยากาศชีวิตความเป็นอยู่ใน จังหวัดท่าขี้เหล็ก ที่เงียบหงอยลงไปถนัดตาหลังจากที่พบ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ของประเทศเมียนมา รวมทั้งในรัฐฉานเองที่ตั้งอยู่ทางภาคกลางฝั่งตะวันออกของประเทศและมีแนวชายแดนติดกับประเทศไทย จนถึงกลางสัปดาห์นี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 122 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยมีจังหวัดท่าขี้เหล็กเป็นจังหวัดที่มีการติดเชื้อมากที่สุดในรัฐฉาน ข้อมูล ณ วันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อสะสม 64 ราย

เมื่อโควิดมาเยือน ทางการรัฐฉานก็ประกาศใช้มาตรการปิดเมือง รวมถึงจังหวัดท่าขี้เหล็กที่มียอดติดเชื้อสูงสุดในรัฐฉาน

เครดิตภาพ : ฉาน เฮอรัลด์ เอเจนซี ฟอร์ นิวส์ (SHAN)

 

การค้าขายและธุรกิจร้านค้า สถานบันเทิง ที่เคยคึกคักในจังหวัดท่าขี้เหล็ก เบาบางลงไปถนัดตา สื่อท้องถิ่นระบุว่า ยิ่งจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ผู้คนก็ออกมาทำกิจกรรมในที่สาธารณะน้อยลงเรื่อย ๆ ประกอบกับมาตรการล็อกดาวน์คุมเข้มการแพร่ระบาดที่มีมาตั้งแต่เดือนต.ค. ตามด้วยมาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหะสถานยามวิกาลหลังเที่ยงคืนถึง 04.00 น. ทำให้ภาคธุรกิจภายในพื้นที่เสมือนอยู่ในโหมดภาพสโลว์โมชั่นแทบจะกลายเป็นหยุดนิ่งชั่วคราวแล้วในเวลานี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ท่าขี้เหล็ก” ฮอตสปอตโควิดระลอกใหม่ พบติดเชื้อเพิ่มอีก 15 รายในวันเดียว

เปิดไทม์ไลน์ "ติดโควิดเพิ่ม 6 ราย" ลักลอบเข้าเมือง พบข้อมูลเดินทางไป 6 จังหวัด

จับตาโรงแรม “1G1 HOTEL” ท่าขี้เหล็ก ...ต้นตอแพร่โควิด

 

“สิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดท่าขี้เหล็กคือไม่มีใครกล้าออกจากบ้าน ถึงแม้จะยังคงมีการค้าขายอยู่บ้าง แต่ก็เป็นการซื้อขายเล็ก ๆ น้อย ๆ” เจ้าของร้านชำรายหนึ่งในท่าขี้เหล็กเอ่ยปากกับสื่อ ชีวิตยังลำบากมากขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้มาตรการคุมเข้มการเข้า-ออกจังหวัดท่าขี้เหล็ก นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มาเยือนท่าขี้เหล็ก หรือผู้ที่ออกจากท่าขี้เหล็กไปยังเมืองอื่น ๆ ก็ต้องพบกับมาตรการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

นายไซ นุม ต่วย ประธานพรรคสันนิบาตรัฐฉานแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (Shan Nationalities League for Democracy) หรือ SNLD ให้ความเห็นว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.มา จังหวัดท่าขี้เหล็กเงียบเหงาราวเมืองร้าง ร้านค้าแทบจะทุกแห่งปิดหมด หมู่บ้านต่าง ๆปิดเงียบเชียบซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการปิดเมืองเพื่อสกัดควบคุมโรค

 

ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 3 ธ.ค. ยอดผู้ติดเชื้อโควิดสะสมในประเทศเมียนมาเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 92,189 ราย เสียชีวิต 1,972 ราย (เพิ่ม 6.8%) เฉพาะในรอบ 24 ชั่วโมงเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) มียอดผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศจำนวน 1,476 ราย   

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นมา หลายพื้นที่ หลายเขตเมืองของรัฐฉาน ฝั่งตรงข้ามกับอ.แม่สาย จ.เชียงรายของไทย ได้บังคับใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 โดยมีการตั้งจุดตรวจบนถนนเชื่อมระหว่างเมืองทุกจุด หรือล็อกดาวน์ทุกเมืองในเขตรัฐฉานตะวันออก แต่ละจุดมีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ตรวจผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ รวมทั้งถนนตามเมืองต่าง ๆที่ตั้งอยู่รายรอบ จ.ท่าขี้เหล็ก มีการตั้งจุดตรวจอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง

 

แม้แต่ถนนใกล้แม่น้ำโขงชายแดนเมียนมา-สปป.ลาว ก็มีการตั้งจุดตรวจตรงด่านเมืองเลนที่เชื่อมระหว่างท่าขี้เหล็กไปยังเมืองเชียงลาบที่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงเมียนมา-สปป.ลาว และถนนระหว่างท่าขี้เหล็ก-สามเหลี่ยมทองคำ ติดกับแม่น้ำโขงชายแดนไทย-เมียนมา-สปป.ลาว ก็มีการตั้งจุดตรวจตรงบ้านห้วยดินดำด้วย ขณะที่ภายในตัวจังหวัดท่าขี้เหล็ก เจ้าหน้าที่ได้สั่งสถานบันเทิงและร้านรวงต่าง ๆ ให้ปิดบริการตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป และยังคงมาตรการห้ามออกจากเคหะสถานหรือเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนถึง  04.00 น.เช่นเดิม สื่อท้องถิ่นระบุ นายอูมิน ไหน่ ผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้นำเจ้าหน้าที่ควบคุมปฏิบัติการดังกล่าวด้วยตัวเอง ขณะที่ทางฝั่งประเทศไทยเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ยังคงวางกำลังและอุปกรณ์เข้มงวดตลอดแนวชายแดน