อะโดบี อนาไลติค ซึ่งติดตามและวิเคราะห์ยอดขายทางออนไลน์ เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายทางออนไลน์ในวันแบล๊คฟรายเดย์ Black Friday (วันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า) ในปีนี้พุ่งขึ้น 21.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนหันไป เลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์ แทนการออกมาจับจ่ายสินค้าที่ห้างร้าน
อะโดบีระบุว่า ผู้บริโภคซื้อสินค้าทางออนไลน์ใน วัน Black Friday ปีนี้อย่างคึกคัก โดยข้อมูลดังกล่าวได้จากการวิเคราะห์ยอดการทำธุรกรรมออนไลน์ของบรรดาร้านค้าปลีกออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 80 ร้านที่ติดท็อป 100 ของร้านยอดนิยม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ช็อปออนไลน์หยุดยาวสหรัฐพุ่ง1.89แสนล้านดอลลาร์
ส่วนยอดซื้อสินค้าประเภทของชำทางออนไลน์ในวัน Black Friday พุ่งขึ้น 397% เทียบกับเดือนต.ค. ขณะที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองพุ่งขึ้น 556% และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงพุ่งขึ้น 254%
นายเทย์เลอร์ ชไรเนอร์ ผู้อำนวยการอะโดบี ดิจิทัล อินไซท์กล่าวว่า ปกติแล้วประชาชนจะซื้อเครื่องg]joเกมคอนโซล โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อัจฉริยะ และโทรทัศน์เครื่องใหม่ในวัน Black Friday อยู่แล้ว แต่ในปีนี้ประชาชนหันไปซื้อของชำ เสื้อผ้า และแอลกอฮอล์ จากทางออนไลน์แทนการซื้อในร้านค้าตามปกติ
สาเหตุดังกล่าวทำให้วัน Black Friday ในปี 2563 เป็นวันที่มียอดการใช้จ่ายออนไลน์มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐ เป็นรองเพียงวัน Cyber Monday เมื่อปี 2562
ขณะเดียวกัน อะโดบีคาดการณ์ว่า วัน Cyber Monday ในปีนี้ น่าจะกลายเป็นวันที่มีการจับจ่ายออนไลน์ครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยประมาณการว่า จะมียอดการใช้จ่ายระหว่าง 10,800-12,700 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 15-35% เมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา (2562)