มาเลย์ฯ สั่งปิดโรงงาน"ท็อป โกลฟ" 28 แห่ง หลังคนงานติดโควิดกว่า 2 พันราย

24 พ.ย. 2563 | 00:16 น.

รัฐบาลมาเลเซียสั่งปิดโรงงานบริษัท “ท็อป โกลฟ” บิ๊กผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังตรวจพบพนักงานติดโควิด-19 มากกว่า 2 พันราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งทะยานแตะ 56,659 ราย

 

นายนูร์ ฮิแชม อับดุลเลาะห์ อธิบดีกรมอนามัยของมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งให้มีการทยอย ปิดโรงงาน ของ บริษัทท็อป โกลฟ คอร์ป ซึ่งเป็น ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังพบพนักงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 2,000 ราย

 

ทั้งนี้ รัฐบาลจะทำการปิดโรงงานเป็นขั้นตอน โดยจะทยอยปิดโรงงานของทางบริษัทซึ่งมีทั้งหมด 28 อาคารโรงงานในเมืองกลัง  

 

การตรวจพบโควิดทำให้โรงงานของท็อป โกลฟ ถูกสั่งปิดทั้ง 28 โรง

สื่อท้องถิ่นของมาเลเซียระบุว่า จากการตรวจหาเชื้อโควิดจากคนงานทั้งหมด 5,767 ราย พบว่ามีผลตรวจเป็นบวกจำนวนถึง 2,453 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีการกักตัวคนใกล้ชิดที่สัมผัสกับพนักงานเหล่านี้แล้ว

          

นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ รัฐมนตรีความมั่นคงมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียเห็นชอบให้มีการทยอยปิดโรงงานของท็อป โกลฟ เพื่อให้มีการตรวจสอบคัดกรอง และกักตัวพนักงาน แต่เขายังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า การทยอยปิดโรงงานดังกล่าวจะเริ่มขึ้นเมื่อใด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 58.9 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.7 แสนราย

โควิดยังระบาดแรง สิงคโปร์-ฮ่องกงชวดเปิดตัวโครงการ Travel Bubble

เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 271 ราย

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีมา บริษัท ท็อป โกลฟ มีกำไรพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์เกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อหลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 1,884 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 56,659 ราย

 

นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 2 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 337 ราย