ธุรกิจมะกันช็อก คลังยันไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้เยียวยาผลกระทบโควิด

20 พ.ย. 2563 | 08:56 น.

รัฐมนตรีคลังสหรัฐไม่เพียงยืนยันไม่ต่ออายุโครงการปล่อยกู้ช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยังทวงเงินงบประมาณส่วนที่เฟดไม่ได้ใช้คืนด้วย ท่าทีดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ช่วงเช้า (เวลาท้องถิ่นสหรัฐ) ร่วงเกือบ 200 จุด

 

 นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า โครงการเงินกู้เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 วงเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ ที่ริเริ่มโดย ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นั้น จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ และจะไม่มีการต่ออายุโครงการดังกล่าว

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ (ขวา) และนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด

 

นายมนูชินได้ส่งจดหมายถึงนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด แล้วโดยระบุว่า เม็ดเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ที่จัดสรรให้กับกระทรวงการคลังภายใต้มาตรการ CARES Act ที่เรียกกันง่าย ๆว่ามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น เงินส่วนใหญ่ได้ถูกจัดสรรให้กับเฟดเพื่อใช้ในโครงการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร และรัฐบาลท้องถิ่น แต่เมื่อโครงการนี้หมดอายุลง คลังเห็นว่า เฟดควรคืนเงินที่ไม่ได้ใช้ คืนให้กับสภาคองเกรสเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ต่อไป

 

นายมนูชินปฏิเสธที่จะต่ออายุโครงการดังกล่าวที่เฟดมองว่ามีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีสินเชื่อไหลเวียนไปถึงทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนักในรอบ 100 ปี

 

ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีคลังสหรัฐครั้งนี้ นับว่าอยู่เหนือความคาดหมายของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เฟดได้เรียกร้องให้มีการขยายโครงการปล่อยกู้ดังกล่าว ไม่เพียงเท่านั้น ถ้อยแถลงของนายมนูชินยังถูกตีความว่า อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงความยุ่งยากที่คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ จะต้องเผชิญในอนาคต เนื่องจากเฟดมองว่า โครงการเงินกู้นี้มีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดการเงินและนักลงทุน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เฟด-คลังสหรัฐจับมือ ร่วมกันพยุงเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตโควิด

เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญความเสี่ยง “สูงมาก”

คาดธนาคารกลางสหรัฐคงดอกเบี้ยใกล้ 0% ยาวถึงปี '66 

 

สื่อรายงานว่า หลังจากที่มีข่าวนายมนูชินยืนยันไม่ต่ออายุโครงการปล่อยกู้ของเฟดเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์เช้านี้ (ตรงกับเวลาไทยประมาณ 13.00 น.) ก็ร่วงเกือบ 200 จุดแล้ว โดยนักลงทุนมองว่า การตัดสินใจกล่าวจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเฟดและกระทรวงการคลัง