"ชัยชนะของทรัมป์จะหนุนหุ้นสหรัฐ แต่ฉุดราคาสินทรัพย์เอเชีย”

29 ต.ค. 2563 | 07:45 น.

“เจพีมอร์แกน” คาดหากปธน.ทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ก็จะเป็น “ปัจจัยบวก” ต่อตลาดหุ้นสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ แต่จะฉุดราคาสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย

 

นักวิเคราะห์จาก เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์วานนี้ (28 ต.ค.) ว่า หาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างปรากฏการณ์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ โดยคาดว่าดัชนี S&P500 มีโอกาสพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,900 จุด แต่ขณะเดียวกันก็จะฉุดราคาสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย

ชัยชนะของเขาในการเลือกตั้ง จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหลักทรัพย์สหรัฐและค่าเงินดอลลาร์

การคาดการณ์ดังกล่าวอ้างอิงจากปัจจัยขับเคลื่อนตลาดในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะอย่างเหนือความคาดหมาย

 

แม้โพลสำรวจในขณะนี้จะบ่งชี้ว่า คะแนนนิยมของนายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ยังคงแซงหน้าปธน.ทรัมป์ แต่เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทในวอลล์สตรีทต่างแสดงท่าทีไม่มั่นใจว่า นายไบเดนจะสามารถเอาชนะปธน.ทรัมป์ได้จริงหรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สหรัฐแห่เลือกตั้งล่วงหน้า 70 ล้านคน-แฮกเกอร์ล้วงตับทีมทรัมป์

7ข้อต้องรู้ โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งสหรัฐ

“ทรัมป์ VS ไบเดน” ดีเบตรอบสุดท้าย ชี้ชะตาเลือกตั้งปธน.สหรัฐ

 

นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนยังคาดว่า ราคาสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียอาจได้รับแรงกดดันหากปธน.ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากชัยชนะครั้งที่สองของปธน.ทรัมป์ย่อมหมายความว่า ข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นการค้า เทคโนโลยี และการลงทุนนั้น จะยังคงดำเนินต่อไป

ในขณะที่โพลและกระแสคาดการณ์ต่าง ๆ พุ่งเป้าไปในทางเดียวกันว่า นายไบเดนมีคะแนนนิยมนำหน้าปธน.ทรัมป์ แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่าปธน.ทรัมป์เคยสร้างปรากฏการณ์ช็อกโลกมาแล้วเมื่อครั้งที่เขาสามารถเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน ในปี 2559 ด้วยคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College)

 

นอกจากนี้ นักลงทุนบางกลุ่มยังกังวลว่า หากนายไบเดนจากพรรคเดโมแครต (ซึ่งมีสีน้ำเงินเป็นสีประจำพรรค) ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจจะเกิดภาวะ "คลื่นสีน้ำเงิน" หรือ "Blue Wave" ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ในขณะเดียวกันก็ยังรั้งอำนาจในสภาผู้แทนราษฎรด้วย

โจ ไบเดน

ท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งเข้ามาเป็นปัจจัยใหม่ที่ฉุดรั้งตลาด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งจากเดิมนักลงทุนก็มีความวิตกกังวลกันอยู่แล้วจากผลกระทบของโควิด-19 รวมทั้งความล่าช้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐด้วย

 

ทั้งนี้ ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 32.46 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. ขณะที่นักลงทุนต่างพากันชะลอซื้อหุ้นก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้

 

นักลงทุนฝ่ายที่เชื่อมั่นว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต จะชนะการเลือกตั้งนั้น ได้พากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกและกลุ่มผู้ผลิตกัญชา เนื่องจากคาดว่าหุ้นเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากนโยบายของนายไบเดน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกาตคาดการณ์ว่า คณะบริหารของนายไบเดนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์