แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เผยผ่านทวิตเตอร์ว่าอัตราผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นบวกในรัฐนิวยอร์ก มีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ (23 ต.ค) โดยอัตราในพื้นที่จับตา "กลุ่มก้อนการติดเชื้อขนาดเล็ก" (micro-cluster) ซึ่งเผชิญกับการระบาดใหญ่รุนแรงที่สุด สูงแตะร้อยละ 2.58 ขยับขึ้นเล้กน้อยจากวันก่อนหน้า (22 ต.ค.) ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.31
ส่วนอัตราผลตรวจโรคเป็นบวกในทั่วทั้งรัฐ ไม่นับรวมพื้นที่ "กลุ่มก้อนการติดเชื้อขนาดเล็ก" อยู่ที่ร้อยละ 1.13 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.98 ในวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.)
นิวยอร์กได้ดำเนินการตรวจโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน 156,940 ครั้ง เมื่อวันศุกร์ (23 ต.ค.) โดยในจำนวนนี้มีผลตรวจเป็นบวก 2,061 ครั้ง หรือร้อยละ 131 ของทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.) ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.15
ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชิระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่ารัฐนิวยอร์กตรวจพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวม 33,418 รายในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสูงที่สุดในบรรดารัฐทั้งหมดของประเทศเมื่อนับถึงเวลา 13.30 น. ของวันอาทิตย์ (25 ต.ค.) ตามเวลาประเทศไทย
อย่างไรก็ดี อัตราการติดเชื้อเฉลี่ยในช่วง 7 วันที่ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ชี้ให้เห็นว่ารัฐนิวยอร์กมีอัตราผลตรวจโรคเป็นบวกต่ำที่สุดเป็นอันดับ 3 ในบรรดารัฐทั้งหมดของสหรัฐฯ
ที่มา : สำนักข่าวซินหัว