22 ต.ค. 63 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาล่วงหน้าของฮ่องกง (SFC) สั่งปรับบริษัทโกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เป็นจำนวนเงิน 350 ล้านดอลลาร์ หรือราว 11,200 ล้านบาท เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในกองทุน 1MDB ของรัฐบาลมาเลเซีย โดยค่าปรับดังกล่าวนับเป็นจำนวนเงินสูงที่สุดเท่าที่ SFC ได้เคยสั่งปรับบริษัทต่างๆ
SFC ระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ เอเชียมีการบริหารจัดการที่หละหลวมและไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้มีการดำเนินการที่ผิดกฎระเบียบในการเสนอขายพันธบัตร 3 ชุดเพื่อระดมเงินสำหรับกองทุน 1MDB ในปี 2555-2556
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"โกลด์แมน แซคส์"ยอมจ่ายรัฐบาลมาเลย์กว่า 1.2 แสนล้าน ปิดคดีฉาว
มหาธีร์ชี้ “นาจิบ” ไม่รอด เหตุทุจริต “1MDB”
"นาจิบ" อดีตนายกมาเลเซีย ถูกศาลสั่งเก็บภาษีย้อนหลังกว่าหมื่นลบ.
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งตั้งอยู่ที่สหราชอาณาจักร เป็นบริษัทที่ดำเนินการจัดเตรียม และเป็นอันเดอร์ไรเตอร์ของพันธบัตร 3 ชุดดังกล่าว ซึ่งระดมทุนได้ 6.5 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี SFC ระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกง มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในการกระบวนการอนุมัติ และการขายพันธบัตรดังกล่าว และทางบริษัทมีกำไร 210 ล้านดอลลาร์จากการเสนอขายพันธบัตร ซึ่งเป็นวงเงินสูงที่สุดในบรรดาบริษัทในเครือโกลด์แมน แซคส์ที่มีผลประโยชน์จากการจำหน่ายพันธบัตรในครั้งนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้จัดตั้งกองทุน 1MDB วงเงิน 6.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2552 โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของมาเลเซีย
อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐคาดการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของมาเลเซียได้ยักยอกเงินราว 4.5 พันล้านดอลลาร์จากกองทุน 1MDB ในระหว่างปี 2552-2557 ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ถูกกล่าวหาว่า ได้ให้ความช่วยเหลือต่อเจ้าหน้าที่มาเลเซียในการยักยอกเงินจากกองทุนดังกล่าว
อนึ่งเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียได้ยุติการดำเนินคดีทางอาญาต่อโกลด์แมนแซคส์ หลังจากยอมตกลงจ่ายเงินเพื่อยุติคดีความให้กับมาเลเซียจำนวน 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าในสัปดาห์นี้โกลแมนแซคส์ยังจะทำความตกลงที่จะจ่ายเงินอีก 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยุติคดีที่เกี่ยวข้องกับโกลด์แมนแซคส์ในสหรัฐด้วย