จีนคาดเศรษฐกิจ Q3 ขยายตัวต่อเนื่อง
หากการเติบโตของภาคผลิตและภาคบริการ ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นการฟื้นตัวยังคงปรากฏให้เห็นในเดือนนี้ ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจของจีนในไตรมาส 3 ปีนี้ จะยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
นาย ฝู หลิงฮุย โฆษก สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีน จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน ไตรมาส 3 ของปีนี้ หากปัจจัยกระตุ้นการฟื้นตัวยังคงปรากฏให้เห็นในเดือนก.ย. นี้
โฆษกสำนักงานสถิติแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า นับจนถึงขณะนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและการผลิตภาคบริการได้ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสสองที่ผ่านมา และหากปัจจัยกระตุ้นดังกล่าวยังคงปรากฏให้เห็นในเดือนก.ย. นี้ เศรษฐกิจจีนก็จะเติบโตต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาสที่สาม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้ปรับตัวขึ้น 5.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งนับเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วหลังจากที่ปรับตัวขึ้นเพียง 4.8% ในเดือนก.ค. และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.จะเพิ่มขึ้น 5.1%
ส่วนดัชนีการผลิตภาคบริการปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนก.ค.
สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในไตรมาส 2 ของปีนี้ มีอัตราขยายตัว 3.2% ซึ่งถือว่าฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่หดตัวลง -6.8% ในไตรมาสแรก และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะขยายตัวเพียง 2.5%
นอกเหนือจากสัญญาณต่าง ๆ ที่ดีขึ้นนี้ เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ธนาคารกลาง หรือแบงก์ชาติจีน ยังได้อัดฉีดเงิน 1.2 แสนล้านหยวน (1.77 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าระบบธนาคารเพื่อมุ่งรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอ โดยเป็นการอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบธนาคารผ่านทางข้อตกลง reverse repos ประเภทอายุ 7 วัน ที่อัตราดอกเบี้ย 2.2%
แถลงการณ์จากธนาคารกลางจีนระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้เพียงพอและอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้ reverse repo เป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต
รายงานของรัฐบาลจีนในปีนี้ ระบุว่า จีนจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่รอบคอบอย่างเหมาะสมและยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน คณะกรรมาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยังได้ประกาศแนวปฏิบัติโดยเรียกร้องให้แนวร่วม United Front ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดพรรคคอมมิวนิสต์ หาทางทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอิทธิพลและบทบาทในภาคเอกชนมากขึ้น
โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ก็เพื่อให้รัฐบาลจีนเข้ามาช่วยภาคเอกชนทำธุรกิจ ในช่วงเวลาที่ภาคเอกชนของจีนมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความท้าทายและความเสี่ยงตามมา ซึ่งทางพรรคจะเข้ามาสนับสนุนและช่วยให้ภาคเอกชนเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ
ทั้งนี้ แนวร่วมจะมีหน้าที่ดูแลนักธุรกิจภาคเอกชนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร นักลงทุน ผู้ได้รับผลประโยชน์ รวมไปถึงชาวฮ่องกงและมาเก๊าที่เข้ามาลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จีนฟื้นฟูเศรษฐกิจสำเร็จประเทศแรกหลังโควิด-19
ข่าวดีเศรษฐกิจจีนฟื้นต่อเนื่อง ฉุดส่งออกไทย มิ.ย.โต 12%
หน้าตาที่เปลี่ยนไป ของเศรษฐกิจโลกยุคหลังโควิด-19 (จบ)
บิ๊กแบงก์พาณิชย์จีนกำไรทรุดหนักสุดในรอบ 10 ปี