ดัชนีดอลลาร์ร่วงต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ ทำสถิติขาลงนานที่สุดในรอบ 10 ปี

14 ส.ค. 2563 | 19:21 น.

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงอีกวานนี้ (14 ส.ค.) โดยปรับตัวลงติดต่อกันถึง 8 สัปดาห์

 

ขณะที่ นักลงทุนเทขายดอลลาร์ และหันมาถือครองสกุลเงินจากประเทศที่สามารถจัดการกับ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ดีกว่าสหรัฐอเมริกา สกุลเงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจาก ความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่

 

ณ เวลา 23.43 น.ตามเวลาไทย (วันที่ 14 ส.ค.) ดอลลาร์ร่วงลง 0.42% สู่ระดับ 106.47 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.20% สู่ระดับ 126.04 เยน และดีดตัวขึ้น 0.22% สู่ระดับ 1.1840 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.31% สู่ระดับ 93.05

ดัชนีดอลลาร์ร่วงต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ ทำสถิติขาลงนานที่สุดในรอบ 10 ปี

การปรับตัวลงติดต่อกัน 8 สัปดาห์ของดอลลาร์ ถือเป็นช่วงขาลงที่ยาวนานที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ หรือตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553

 

นักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐชุดใหม่ รวมทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพื่อประเมินความคืบหน้าในการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าในเฟสแรก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำเนียบขาว-คองเกรสงัดข้อไม่เลิก ทำดัชนีดอลลาร์ร่วง

"ทรัมป์"เซ็นขยายเวลาการใช้มาตรการหนุนศก. 

สหรัฐเร่งคลอดมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่  1 ล้านล้านดอลล์

คะแนนนิยม “ทรัมป์”ดิ่งต่อ ผลงานการรับมือโควิด “ไม่ผ่าน” 

นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กับนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลัง

ทั้งนี้ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่ มีแนวโน้มยืดเยื้อออกไปอีกหลายสัปดาห์ เนื่องจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไม่มีกำหนดที่จะกลับมาประชุมกันอีกในเดือนนี้ โดยวุฒิสภาจะปิดสมัยประชุมจนถึงวันแรงงานสหรัฐในวันที่ 7 ก.ย. ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะให้ความสนใจต่อการประชุมใหญ่ของแต่ละพรรคที่จะมีขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า

 

นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ไม่ได้พบกับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายมาร์ก มีโดว์ส หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว นับตั้งแต่ที่การเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายประสบความล้มเหลวเมื่อวันศุกร์ (7 ส.ค.) และทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีกำหนดการเจรจารอบใหม่

 

นางเปโลซีได้สนทนาทางโทรศัพท์ครั้งล่าสุดกับนายมนูชินเมื่อวันพุธ (12 ส.ค.) ซึ่งนายมนูชินยืนกรานว่าทำเนียบขาวจะไม่เพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์ตามที่พรรคเดโมแครตเสนอ