ดัชนีบะหมี่ในฮ่องกงโตพรวด 30% สวนทางค้าปลีกวูบหนัก

12 ส.ค. 2563 | 07:47 น.

โควิดทุบค้าปลีกฮ่องกงกระทบหนัก ผลประกอบการกลุ่มโรงแรมยักษ์ใหญ่หล่นวูบ สวนทางบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยอดพุ่ง 30% ทูตพาณิชย์ชี้ช่องไทยเร่งเจาะตลาดอาหารพร้อมทาน ประสานซีพีส่งออก

 

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวประเภทโรงแรม และร้านค้าปลีกในฮ่องกงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 หนักที่สุด ซึ่งแม้ว่าอัตราการเข้าพักในโรงแรมจะมีอัตราส่วนการเข้าพักที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2563 ที่เริ่มมีการระบาดเกิดขึ้นในฮ่องกง แต่รายได้ที่ได้รับเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายพื้นฐานของโรงแรมเท่านั้น เนื่องจากราคาห้องพักได้ลดราคาลงอย่างมาก และมีโรงแรมจำนวนมากที่เสนอแพ็กเกจการเข้าพักร่วมกับการใช้บริการของร้านอาหาร และบาร์ในโรงแรมอีกด้วย เพื่อเป็นการดึงดูดชาวฮ่องกงที่ไม่สามารถเดินทางออกนอกเมืองได้ในช่วงนี้ให้เข้าพักในโรงแรมแทน

 

The Hongkong and Shanghai Hotels, Limited ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีโรงแรม Peninsula, รถราง Peak Tram, The Peak Tower และ The Repulse Bay Complex อยู่ในเครือบริษัท ได้แจ้งผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2563 ว่าขาดทุนถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562 ที่ได้กำไรถึง 254 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว กลุ่มบริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการในปี 2563 จะขาดทุน และสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฮ่องกงเปิด รพ.ชั่วคราวแห่งแรกรับผู้ป่วยโควิดที่จำนวนพุ่งขึ้นมาก

"ฮ่องกง"คุมโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ปรับคนไม่สวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งฯ

 

ดัชนีบะหมี่ในฮ่องกงโตพรวด 30% สวนทางค้าปลีกวูบหนัก

 

ขณะข้อมูลจากสำนักงานสำรวจสำมะโนครัวประชากร และสถิติฮ่องกง (The Census and Statistics Department) ชี้ว่า ยอดค้าปลีกในเดือนมิถุนายน 2563 ลดลงร้อยละ 24.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งเมื่อพิจารณาข้อมูลครึ่งแรกของปี 2563 พบว่ามูลค่าการค้าปลีกลดลงถึงร้อยละ 33.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562 โดยหมวดสินค้าที่มียอดจำหน่ายลดลงสูงสุดคือสินค้าประเภท เสื้อผ้า รองเท้า และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีอัตราลดลงร้อยละ 39.7 เนื่องจากการท่องเที่ยวยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ รวมถึงการยกระดับมาตรการ Social Distancing ที่เข้มงวดขึ้นจากการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 ของไวรัส COVID-19 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

 

ในทางตรงกันข้าม มูลค่าการขายสินค้าอุปโภคบริโภคในซุปเปอร์มาร์เก็ตมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 ในเดือนมิถุนายน 2563 โดยบริษัท Nissin Foods Limited ในฮ่องกงชี้ว่า ผลประกอบการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในครึ่งแรกของปี 2563 ยอดขายมีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562

 

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต./ทูตพาณิชย์) ณ ฮ่องกงให้ความเห็นว่าและข้อเสนอแนะ 1.จากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ยอดค้าปลีกลดลงอย่างมาก โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ยอดค้าปลีกในฮ่องกงลดลงต่ำสุด โดยมีมูลค่าลดลงร้อยละ 44 และได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 42 ในเดือนมีนาคม (ตามกราฟข้างล่างนี้)

ดัชนีบะหมี่ในฮ่องกงโตพรวด 30% สวนทางค้าปลีกวูบหนัก

 

2.แม้ยอดค้าปลีกจะมีมูลค่าลดลง แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับมีผลประกอบการที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 รวมถึงอาหารบริโภคสำเร็จรูปประเภทอื่นในซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย เนื่องจากการยกระดับมาตรการ Social Distancing ที่รัฐบาลได้สั่งให้ร้านอาหารในฮ่องกงปิดให้บริการนั่งทานในร้านตั้งแต่เวลา 18:00 – 04:59 น. ตลอดจนจำกัดการนั่งทานอาหารในร้านได้เพียงโต๊ะละ 2 คน ทำให้ชาวฮ่องกงที่หวาดกลัวการติดเชื้อไวรัส COVID-19 เลือกปรุงอาหารทานเองที่บ้าน หรือเลือกทานอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่มีราคาถูกกว่า แสดงให้เห็นว่าชาวฮ่องกงมีการใช้จ่ายเงินที่ลดลง จากการขาดรายได้ และการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

3.สคต. ณ เมืองฮ่องกง ได้ประสานกับเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) เพื่อส่งสินค้าแช่เย็น แช่แข็ง โดยเฉพาะข้าวกล่อง อาหารพร้อมรับประทานไปจําหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในฮ่องกง เนื่องจากสินค้าไทยกําลังเป็นที่ต้องการในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าบริโภคสําเร็จรูป Lunchbox อาหารแช่เย็น และแช่แข็ง จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไทยดังกล่าว