โดนแล้ว  “จิมมี ไล” เจ้าพ่อสื่อฮ่องกงถูกจับสังเวยกม.ความมั่นคงฉบับใหม่  

ตำรวจฮ่องกงจับกุมตัว 7 ผู้ต้องหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นคือ นายจิมมี ไล มหาเศรษฐีเจ้าพ่อสื่อชาวฮ่องกง เจ้าของหนังสือพิมพ์ แอปเปิล เดลี ที่เจอข้อหาหนักคือ สมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ เป็นภัยคุกคามความมั่นคง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายไล (Jimmy Lai) ได้ถูกหมายหัวจากทางการจีนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา  โดยเขาเคยออกมาปรากฏตัวร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมหลายครั้ง อีกทั้งยังได้ส่งช่างภาพออกมาอยู่แถวหน้าแนวปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ออกไปทั่วโลก     

ในครั้งนี้นายไล ถูกตำรวจฮ่องกงจับฐานต้องสงสัยว่าสมคบคิดต่างชาติ ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา  เขาเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่สุดของฮ่องกงที่ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายฉบับใหม่นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฮ่องกงระทึก! รำลึก 23 ปีคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่

จีนไฟเขียว ใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกงวันนี้

"ทรัมป์" สั่งทบทวนด่วน เตรียมยกเลิกสถานะพิเศษฮ่องกง

จีนลั่นพร้อมชน ตอบโต้ทรัมป์หลังถอดสถานะพิเศษฮ่องกง

นายไล เศรษฐีด้านสื่อวัย 71 เป็นเจ้าของและผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แทบล็อยด์ ‘แอปเปิล เดลี’ (Apple Daily) และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงที่แสดงตัวเปิดเผย เขายังเป็นนักวิจารณ์ที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่มาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังเดินทางไปสหรัฐอเมริกาบ่อยครั้งเพื่อพบเจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศที่แสดงท่าทีสนับสนุนการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ดังนั้น ในสายตารัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ นายจิมมี ไลจึงเป็น “ผู้ทรยศ”  

แอปเปิล เดลี สื่อของนายไลเอง รายงานว่า เขาถูกตำรวจฮ่องกงคุมตัวออกจากบ้านในย่านโฮมานทิน (Ho Man Tin) ตั้งแต่เช้าวันที่ 10 ส.ค. พร้อมกับบุตรชายอีกคนหนึ่งคือนาย เอียน ไล นอกจากนี้ ออฟฟิศของหนังสือพิมพ์ แอปเปิล เดลี ของนายไล ยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นายเข้าตรวจค้น อย่างไรก็ตาม นายไรอัน ลอว์ หัวหน้ากองบรรณาธิการแอปเปิล เดลี ยืนยันว่า เขาไม่กลัว และไม่ได้หวั่นเกรงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แอปเปิล เดลี จะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปตามปกติ และจะยังคงมีหนังสือพิมพ์วางแผงในวันพรุ่งนี้

ข่าวยังระบุด้วยว่า ร้านอาหาร “คาเฟ่ ซีซัน” ซึ่งเป็นกิจการของนายเอียน บุตรชายของจิมมี ไล ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจค้นด้วยเช่นกัน

ภายใต้กฎหมายความมั่นคงที่จีนนำมาใช้กับฮ่องกงนั้น กำหนดโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิตสำหรับความผิดฐานล้มล้างการปกครอง แบ่งแยกดินแดน ก่อการร้าย และสมคบคิดต่างชาติ ซึ่งผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้มองว่าเป็นการกดขี่ และลิดรอนเสรีภาพในเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษกึ่งปกครองตนเอง แต่ฝ่ายที่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้มองว่ากฎหมายความมั่นคงดังกล่าวจะช่วยฟื้นฟูเสถียรภาพให้กลับคืนมาสู่เกาะฮ่องกง หลังจากที่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายอันเกิดจากเหตุชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อและรุนแรงมาตั้งแต่ปี 2562

ทั้งนี้ นายไลเคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปี 2563 ฐานเข้าร่วมการชุมนุมผิดกฎหมายพร้อมกับแกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวโยงกับการประท้วงในปีที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จิมมี ไล ยืนกรานว่าจะปักหลักอยู่ในฮ่องกงเพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยแม้จะรู้ว่าตนเองถูกหมายหัว เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่จ้องใช้กฎหมายความมั่นคงเล่นงานอยู่แล้วก็ตาม

ก่อนหน้าวันจันทร์ (10 ส.ค.)  มีนักเคลื่อนไหวในฮ่องกงถูกจับฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงไปแล้ว 15 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงนักศึกษาอายุระหว่าง 16-21 ปีที่โพสต์ข้อความปลุกระดมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลุกขึ้นมาล้มล้างอำนาจรัฐและแบ่งแยกดินแดนฮ่องกงเมื่อเดือนก.ค.

กฎหมายความมั่นได้สร้างความหวั่นวิตกและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อย คนหนุ่มสาวที่ต่อต้านรัฐบาลจำใจต้องยุติการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม ฮ่องกง เนชันแนล ฟรอนต์ ซึ่งมีเป้าหมายเรียกร้องเอกราช รวมถึงกลุ่มเดโมซิสโต (Demosisto) ของ โจชัว หว่อง ซึ่งหนุนการปฏิรูปประชาธิปไตยในฮ่องกง ขณะที่นักเคลื่อนไหวบางราย อาทิ นาธาน ลอว์ ได้หลบหนีไปลี้ภัยการเมืองที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

นายโจชัว หว่อง แกนนำการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจับกุมตัวนายจิมมี ไล ในครั้งนี้ว่า “ถึงแม้หนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี ในวันพรุ่งนี้จะมีแต่หน้าเปล่า ๆ ว่าง ๆ ผมก็จะออกไปซื้อ” ทั้งนี้เพื่อแสดงจุดยืนว่าเขายืนอยู่เคียงข้างนายจิมมี ไล

อย่างไรก็ตาม ทางการจีนและฮ่องกงยืนยันว่าจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้เพื่ออุด “ช่องโหว่” ในด้านความมั่นคงแห่งชาติ และยืนยันว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้จะไม่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวฮ่องกง แต่จะใช้จัดการกับ “พวกที่ก่อปัญหา” กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น

โฆษกของสำนักงานกำกับดูแลกิจการฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งเป็นหน่วยงานของจีน ให้ความเห็นกับสำนักข่าวซินหัวว่า นายจิมมี ไล นั้นเป็นตัวแทนของคนที่ต่อต้านจีนแผ่นดินใหญ่ และต่อต้านฮ่องกง นอกจากนี้ นายไลยังมีแผนการจะปลุกระดมให้เกิดการชุมนุมประท้วงอย่างผิดกฎหมาย และให้เงินสนับสนุนขบวนการแยกฮ่องกงเป็นเอกราชจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งยังใช้สื่อที่มีอยู่ในมือเป็นเครื่องมือกระจายข่าวลือ

การจับกุมตัวนายไลและผู้ต้องหาคนอื่น ๆ เมื่อวันจันทร์ เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งตอกย้ำและทำให้การเผชิญหน้าระหว่างจีน ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา ยิ่งทวีความตึงเครียด นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐออกมาทวีตแสดงความกังวลแล้วว่า หลังทราบข่าวการจับกุมตัวนายไล เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ส.ค.) สหรัฐฯ เพิ่งประกาศคว่ำบาตรนาง แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน รวมทั้งอดีตผู้บัญชาการตำรวจของฮ่องกง 2 นายและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 8 คน ฐานมีส่วนในการลิดรอนเสรีภาพทางการเมืองของชาวฮ่องกง คำสั่งคว่ำบาตรดังกล่าวจะมีผลทำให้ทรัพย์สินในสหรัฐฯ ของเจ้าหน้าที่ฮ่องกงกลุ่มนี้ถูกอายัด และยังห้ามพลเมืองอเมริกันทำธุรกิจกับบุคคลเหล่านี้อีกด้วย ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางแลมกล่าวว่า เธอไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรในสหรัฐฯที่จะให้อายัดอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังประกาศจะยกเลิกวีซ่าสหรัฐฯ ของเธอ ซึ่งจะหมดอายุในปี 2026 เพื่อประชดที่โดนสหรัฐคว่ำบาตรด้วย

และเพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่อเจ้าหน้าที่ของฮ่องกง กระทรวงการต่างประเทศของจีนเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ประกาศคว่ำบาตรพลเมืองอเมริกันจำนวน 11 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐ เช่นวุฒิสมาชิก มาร์โก รูบิโอ , นายเท็ด ครูซ (ส.ว.) นายทอม คัตตอน (ส.ว.) นายจอช ฮอว์ลีย์ (ส.ว.) และนายแพท ทูมี (ส.ว.) ทั้งหมดจากพรรครีพับลิกัน และนายคริส สมิธ ส.ส. จากพรรครีพับลิกัน รวมทั้งบุคคลจากองค์กรเอกชน

ข้อมูลอ้างอิง

Hong Kong media tycoon Jimmy Lai arrested, newsroom raided under China’s new security law

Hong Kong tycoon Jimmy Lai arrested under security law, bearing out 'worst fears'

China sanctions 11 US citizens including Marco Rubio and Ted Cruz