ข่าวกรองสหรัฐแฉ “อิหร่าน-จีน-รัสเซีย” เตรียมล้วงลูกศึกเลือกตั้งปธน.ปลายปีนี้

10 ส.ค. 2563 | 01:44 น.

หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาชี้ว่า จีน-อิหร่านต้องการให้"ทรัมป์"แพ้เลือกตั้ง ขณะที่รัสเซียกำลังสกัดหนทางสู่ชัยชนะของนาย"โจ ไบเดน" ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต

 

นายวิลเลียม อิวานินา ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความมั่นคงและต่อต้านการจารกรรมข้อมูลแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Counterintelligence and Security Center หรือ NCSC) เปิดเผยว่า รัสเซีย จีน และอิหร่าน กำลังพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐ ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยเขาระบุว่า ทั้ง 3 ประเทศดังกล่าวใช้การบิดเบือนข้อมูลออนไลน์ และวิธีการอื่น ๆ เพื่อพยายามจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของชาวอเมริกันที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สร้างความปั่นป่วน และทำลายความเชื่อมั่นของชาวอเมริกันในกระบวนการประชาธิปไตย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

"เราประเมินว่า จีน ไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 โดยจีนมองว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นบุคคลที่ไม่สามารถคาดเดาได้ จีนได้เพิ่มความพยายามที่จะสร้างอิทธิพลก่อนการเลือกตั้งของสหรัฐในเดือนพ.ย. นี้ เพื่อหวังกำหนดทิศทางของนโยบายในสหรัฐ กดดันนักการเมืองสหรัฐที่จีนมองว่าขัดขวางผลประโยชน์ของจีน รวมถึงเบี่ยงเบน และตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์จีนด้วย" นายอิวานินาระบุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คะแนนนิยม “ทรัมป์”ดิ่งต่อ ผลงานการรับมือโควิด “ไม่ผ่าน”

ทำเนียบขาวยันจัดเลือกตั้งปธน.สหรัฐ"3พ.ย"ตามเดิม

วิกฤติประท้วงทุบคะแนนนิยม “ทรัมป์” จ่อพ่ายเลือกตั้ง

แรปเปอร์ดัง "คานเย เวสต์" ประกาศชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวถึงการที่จีนวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน และท่าทีของรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับการดำเนินการของจีนในฮ่องกง และในทะเลจีนใต้ ทั้งนี้เพราะ "จีนตระหนักดีว่า ความพยายามทั้งหมดเหล่านี้ อาจจะกระทบการแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ"

นายโจ ไบเดน คู่แข่งคนสำคัญ ตัวแทนพรรคเดโมแครต

นายอิวานินายังได้กล่าวเตือนว่า  ต่างชาติอาจจะแทรกแซงระบบการเลือกตั้งของสหรัฐโดยพยายามก่อวินาศกรรมแทรกแซงกระบวนการลงคะแนน ขโมยข้อมูลการเลือกตั้ง หรือตั้งคำถามถึงความถูกต้องของผลการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่า เป็นเรื่องยากสำหรับฝ่ายตรงข้ามที่จะแทรกแซง หรือปรับเปลี่ยนผลการลงคะแนนในวงกว้างของสหรัฐ

 

ทั้งนี้ นอกจากจีนแล้ว รัสเซีย กำลังพยายามที่จะขัดขวางชัยชนะของนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐจากฝั่งพรรคเดโมแครต ซึ่งรัสเซียถือว่าเป็นตัวตั้งตัวตีของสหรัฐในการต่อต้านรัสเซีย โดยนักการเมืองของยูเครนที่สนับสนุนรัสเซียได้กล่าวหานายไบเดนเกี่ยวกับการคอร์รัปชันในยูเครน และหวังที่จะทำลายการหาเสียงของนายไบเดนและพรรคเดโมแครต ในขณะที่นักแสดงหลายคนของรัสเซียก็กำลังพยายามที่จะสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ รวมทั้งสื่อโทรทัศน์ของรัสเซีย

นอกจากนี้ รายงานของนายอิวานินายังระบุถึง “อิหร่าน” ว่า มีแนวโน้มจะใช้กลยุทธ์ทางออนไลน์ อาทิ การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเพื่อบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันต่าง ๆ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีทรัมป์ รวมไปถึงการปลุกปั่นเพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในสหรัฐเกิดความไม่พอใจในเรื่องต่าง ๆ ภายในประเทศ

 

นายอิวานินาเปิดเผยว่า การเผยแพร่รายงานการวิเคราะห์เกี่ยวกับความพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในของสหรัฐโดย 3 ประเทศที่กล่าวมานี้ ก็เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะกระตุ้นเตือนให้ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ได้ช่วยกันออกมาทำหน้าที่ในการปกป้องการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่าให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงได้ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา

 

เมื่อมีการถามประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยผู้สื่อข่าวถามว่าเขาเชื่อรายงานการวิเคราะห์หรือไม่ว่า รัสเซียกำลังพยายามเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐและหวังสกัดขานายไบเดนในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ทรัมป์ตอบว่า “ก็อาจเป็นไปได้” แต่ก็รีบเสริมในลักษณะปัดข้อสังเกตที่ว่า รัสเซียกำลังถือหางฝ่ายเขาว่า “ ผมว่าคนสุดท้ายที่รัสเซียอยากจะเห็นครองตำแหน่งประธานาธิบดีก็น่าจะเป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์นี่แหละ”

 

และเมื่อผู้สื่อข่าวย้ำว่า ที่เขาพูดเช่นนั้นมันตรงกันข้ามกับรายงานของฝ่ายข่าวกรอง ทรัมป์ย้อนกลับทันทีว่า “ผมไม่สนหรอกนะว่าคนอื่นจะพูดยังไง” ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ไม่มีใครที่ยังมีสามัญสำนึกดีอยู่จะคิดว่ารัสเซียอยากให้เขาชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เขาจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องการแทรกแซงของต่างชาติอย่างใกล้ชิด

 

ข้อมูลอ้างอิง

U.S. intelligence report on Trump-Biden election meddling reveals who Russia, China and Iran want to win