อัพเดท “ระเบิดเลบานอน” ประกาศภาวะฉุกเฉิน - 1.1 ล้านคนลำบาก 

05 ส.ค. 2563 | 20:15 น.

อัพเดท สถานการณ์ ระเบิด กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีประชาชน 1.1 ล้านคนลำบาก บ้าน-อาคารในรัศมี 10 กม.พังพินาศ

วันที่ 6 ส.ค. 63 ห้องข่าว 62 ภาคพื้นแปซิฟิก และ อินโดแอตแลนติก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รับรายงานและสรุปเหตุเบื้องต้นกับเหตุระเบิด กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน โดยระบุว่า

อัพเดท “ระเบิดเลบานอน” ประกาศภาวะฉุกเฉิน - 1.1 ล้านคนลำบาก 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระเบิดช็อคโลก! ที่ท่าเรือเลบานอน (คลิป)

เปิดภาพวินาที "ระเบิดยักษ์" กวาดกรุงเลบานอน

ถอดบทเรียน “เลบานอน” กับความอันตรายของ “แอมโมเนียมไนเตรท”

ต้นตอระเบิดใหญ่ "เลบานอน" แอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตัน

 

โกดังสินค้าที่ 12 ท่าเรือน้ำลึกเกิดเพลิงไหม้ และระเบิด มีเสียชีวิต  (ณ เวลา 20.30 น. ของวันที่ 5 ส.ค.63 ตามเวลาประเทศไทย) จำนวน 120 ราย สูญหาย 18 คน บาดเจ็บมากกว่า 5,000คน มีประชาชน กว่า 360,000 คนไม่มีทีอยู่ และมีประชาชนกว่า 1.1 ล้านคนได้รับผลกระทบ 

บ้านเรือนในรัศมีของการระเบิด 10 กิโลเมตร เสียหายทั้งหมด อาคารสูง 410 อาคารพังเสียหายโรงพยาบาล 5 แห่ง โกดังเก็บอาหาร 8 โกดัง คิดเป็นรวม70% ของเมืองเสียหาย

 

รัฐบาลเลบานอน ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พื้นที่ภัยพิบัติระเบิด ระบบพื้นฐานเสียหาย 10 % และอยู่ระหว่างการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

อัพเดท “ระเบิดเลบานอน” ประกาศภาวะฉุกเฉิน - 1.1 ล้านคนลำบาก 

โดย นายมานัล อับเดล ซาหมัด นาจด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ ของเลบานอน เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติประกาศให้กรุงเบรุตเป็น ‘เมืองภัยพิบัติ’ และประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่อาจขยายออกไปได้อีก โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของกองทัพจะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อรักษาความสงบทันที ขณะที่กระทรวงแรงงานจะใช้มาตรการที่จำเป็น เพื่อรับประกันการนำเข้าและส่งออก โดยเฉพาะที่ท่าเรือเมืองตริโปลี กับท่าเรือเมืองไซดอน เมืองใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของประเทศ

อัพเดท “ระเบิดเลบานอน” ประกาศภาวะฉุกเฉิน - 1.1 ล้านคนลำบาก 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้คณะกรรมการบรรเทาภัยพิบัติ จัดหาที่พักอาศัยให้แก่ประชาชนกว่า 300,000 คน ที่บ้านหรือที่อยู่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดจะไม่เหมาะแก่การอาศัยอยู่อีกต่อไป โดยจะเปิดโรงเรียนและโรงแรมเพื่อรองรับประชาชน และร้องขอให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงรับประกันไม่ให้มีการเข้าไปยุ่งเหยิงกับที่เกิดเหตุ