“จีน”บรรลุผลธรรมาภิบาลฟื้นฟูชนบท

05 ส.ค. 2563 | 08:56 น.

“จีน”บรรลุผลระบบนโยบายธรรมาภิบาลฟื้นฟูชนบท ชูวิถีชีวิตเก่าแก่ของคนท้องถิ่นเป็นเสน่ห์ดึงดูดการท่องเที่ยวชนบท

วันนี้ (5 ส.ค.63) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลวิเคราะห์เกี่ยวกับการที่ประเทศจีนได้จัดตั้งระบบนโยบายธรรมาภิบาลเบื้องต้นในชนบทและปรับปรุงกลไกการประสานงานอย่างต่อเนื่อจากการรายงานโดยกระทรวงเกษตรและชนบท ของจีน เมื่อวันที่ 2 ส.ค.63 ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

 

๑. ระบบนโยบายธรรมาภิบาลเบื้องต้นในชนบท จากการที่สำนักงานเกษตรกลาง กระทรวงเกษตรและชนบท ได้จัดการประชุมทางวิดีโอเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้ระบบคะแนนในการปกครองชนบทในกรุงปักกิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งพบว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลายท้องถิ่นได้สำรวจและคิดค้นวิธีการกำกับดูแลชนบท โดยเมื่อปีที่แล้ว ได้มีการเริ่มต้นโครงการนำร่องระบบบริหารหมู่บ้านชนบทใน ๑๑๕ อำเภอทั่วประเทศ โดยทุกพื้นที่หารือวิธีการบริหารชนบทอย่างจริงจังและสร้างสรรค์ ด้วยการรณรงค์การใช้ระบบสะสมแต้ม เพื่อช่วยแก้ไขและปรับปรุงพฤติกรรมในเรื่องที่ชาวบ้านควรใส่ใจและให้ความสำคัญในพื้นที่ชนบท จนบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ดังตัวอย่างในพื้นที่ต่างๆ กล่าวคือ

 

๑.๑ ที่เมืองกู้หยวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย โดยได้จัดระบบครัวเรือนหมู่บ้านแต่ละแห่งเป็นหน่วย โดยจัดทำบัญชีจำแนกเป็น ๑๒ ประเภทใหญ่ รวม ๕๑ รายการ เช่น การขจัดความยากจน และการส่งเสริมประเพณี ให้สะสมคะแนนจาก ๓ ด้าน ได้แก่ คะแนนพื้นฐาน คะแนนประชาธิปไตย และคะแนนคุณงามความดี ฯลฯ โดย ๑ คะแนนเท่ากับ ๑ หยวน ซึ่งชาวบ้านจะสามารถนำไปแลกซื้อของในร้านได้

 

๑.๒ ที่เมืองจินซื่อ มณฑลหูหนาน ได้มีการตั้ง “ธนาคารสีเขียว” ใน ๕๑ หมู่บ้านและชุมชนในพื้นที่ชนบท ให้สะสมคะแนนจากการแยกขยะ โดยถือเป็นการแจก “สมุดบัญชีธนาคารสีเขียว” ให้กับแต่ละครัวเรือน เพื่อเดินหน้าการแยกแยะขยะในพื้นที่ชนบทจนประสบความสำเร็จ ๑๐๐% เต็ม

 

๒. การดำเนินการของระบบนโยบายธรรมาภิบาลเบื้องต้นในชนบทดังกล่าว มีความสอดคล้องต่อยุทธศาสตร์การฟื้นฟูชนบท ซึ่งได้มีการประกาศใช้ "แผนยุทธศาสตร์การฟื้นฟูชนบท ปี พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๖๕ (2018-2022)" กล่าวคือ

 

๒.๑ ในการประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ ๑๙ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เสนอให้ใช้ยุทธศาสตร์การฟื้นฟูชนบท ซึ่งคณะกรรมการกลางพรรคที่มีเลขาธิการสี จิ้นผิง เป็นแกนกลาง ได้มุ่งเน้นไปที่สถานการณ์โดยรวมของพรรคและประเทศ การตัดสินใจและการปรับใช้ที่สำคัญในงาน "เกษตรกรรมพื้นที่ชนบทและเกษตรกร" จึงเป็นงานประวัติศาสตร์ที่สำคัญสำหรับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในการสร้างสังคมที่ดีในทุกด้านและสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยในทุกด้าน ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมาย "สองศตวรรษ"  ในการสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองปานกลางในทุกทางเพื่อบรรลุเป้าหมายครบรอบหนึ่งศตวรรษ และการเดินทางครั้งใหม่สู่ประเทศที่ทันสมัยอันบรรลุสู่เป้าหมายครบร้อยปีที่สอง

 

โดยนำจิตวิญญาณของการประชุมสมัชชาแห่งชาติของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนครั้งที่ ๑๙ การประชุมงานเศรษฐกิจกลาง การประชุมงานกลางชนบทและข้อกำหนดของรายงานการทำงานของรัฐบาลร่างแผนยุทธศาสตร์เสริมสร้างการวางแผน รวมทั้งการชี้นำทางวิทยาศาสตร์และส่งเสริมการฟื้นฟูอุตสาหกรรมชนบท ตามความเห็นของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรี นำไปสู่การใช้ยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูชนบท โดยมีแผนยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูชนบท (ปี ๒๐๑๘ – ๒๐๒๒ หรือ พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) 

 

๒.๒ แผนยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูชนบทดังกล่าวนี้ ถูกชี้นำโดยเลขาธิการสี จิ้นผิง เรื่อง "เกษตรกรรมพื้นที่ชนบทและเกษตรกร" หรือที่เรียกว่า “สามชนบท” ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนดทั่วไปของความเจริญรุ่งเรืองทางอุตสาหกรรมและความน่าอยู่ของระบบนิเวศวัฒนธรรมชนบท การปกครองที่มีประสิทธิภาพและชีวิตที่ร่ำรวย

 

รวมทั้งชี้ถึงเป้าหมายและภารกิจในการสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในระดับปานกลางในทุก ๆ ด้านในปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) ที่จะนำไปสู่การประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ ๒๐ ของพรรคในปี ๒๐๒๒ (พ.ศ.๒๕๖๕) โดยปรับแต่งลำดับความสำคัญของงานจริงและมาตรการเชิงนโยบาย ตลอดจนการปรับใช้โครงการสำคัญ แผนสำคัญและการดำเนินการที่สำคัญ อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการชี้นำภูมิภาคและส่วนต่างๆ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูชนบทอย่างเป็นระเบียบ

 

บทสรุป ความสำเร็จของระบบบริหารหมู่บ้านชนบท จากการจัดตั้งระบบนโยบายธรรมาภิบาลเบื้องต้นในชนบท และปรับปรุงกลไกการประสานงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากกรณีตัวอย่างของเมืองกู้หยวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย และเมืองจินซื่อ มณฑลหูหนาน ดังกล่าวที่สอดคล้องต่อยุทธศาสตร์การฟื้นฟูชนบทตามแผนยุทธศาสตร์การฟื้นฟูชนบท ปี พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๖๕ ของจีน โดยในหลายพื้นที่ได้ใช้ศักยภาพของพื้นที่และการดำเนินวิถีชีวิตเป็นจุดขายการท่องเที่ยวในเขตชนบท

 

จากข้อมูลกระทรวงเกษตรและชนบทของจีน พบว่า จนถึงปลายปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) ได้ยกพื้นที่ ๓๘๘ อำเภอและเมือง เป็นตัวอย่างการท่องเที่ยวชนบท โดยได้ประชาสัมพันธ์หมู่บ้านที่สวยงาม ๗๑๐ แห่ง ด้วยการทำให้การท่องเที่ยวชนบทและการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นวิธีการพักผ่อนหย่อนใจของชาวจีน เช่น เมืองอี๋เหลียง มณฑลหยุนหนาน นำวิถีชีวิตเก่าแก่ของคนท้องถิ่นเป็นเสน่ห์ดึงดูดการท่องเที่ยวชนบท ฯลฯ อันก่อให้เกิดรายได้และการไหลเวียนทางเศรษฐกิจสู่ชนบทอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทยากจนเพื่อให้หลุดพ้นความยากจนตามเป้าหมายภายในปีนี้