หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์รายงานว่า เวียดนามมีแนวโน้มส่งออกข้าวไม่น้อยกว่าเดิมแม้จะมีปัญหาการผลิตตกต่ำจากภัยแล้ง เผยมีการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก ในเขตสามเหลี่ยมแม่น้ำโขงในครอปที่ 2 เพื่อชดเชยผลผลิต
เวียดนามนิวส์อ้างรายงานจากสถาบันวิจัยข้าวกู๋ลองหยางหรือสามเหลี่ยมแม่น้ำโขง ว่าแม้จะเกิดภัยแล้งทำให้เกิดภาวะน้ำเค็มขึ้นที่บริเวณราบลุ่มสามเหลี่ยมแม่น้ำโขงซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวสำคัญของเวียดนาม แต่จะไม่กระทบการส่งออก เนื่องจากชาวนาเตรียมปลูกเพิ่มในการปลูกข้าวรอบที่ 2 ปีนี้ 30,000-120,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 187,500-750,000 ไร่)
รายงานข่าวระบุว่า ภาวะแล้งที่กำลังเกิดขึ้นทำให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวในที่ราบลุ่มสามเหลี่ยมแม่น้ำโขงในรอบปลายปีที่แล้วและต้นปีนี้เสียหายไป 180,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 1.125 ล้านไร่) ทำให้ผลผลิตข้าวในฤดูการปลูก 2558-2559 ได้ข้าวเปลือก 10.94 ล้านตัน ลดต่ำกว่ารอบการผลิตที่แล้ว 186,144 ตัน
อาจารย์ เหงียน ฮอง เซิน (Nguyen Hong Son) ผู้อำนวยการจากสถาบันวิจัยข้าว ฯ ให้สัมภาษณ์เวียดนามนิวส์ว่า ผลผลิตข้าวในฤดูการปลูกแรกเก็บเกี่ยวต้นปีนี้ลดลง 10-15 % เทียบกับปีที่แล้วแต่ชาวบ้านเตรียมปลูกเพิ่มในครอปที่ 2 ในพื้นที่ 200,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 1.25 ล้านไร่) ทำให้ไม่กระทบต่อการส่งออกข้าวปีนี้
เวียดนามในปีที่แล้วส่งออกข้าวปีที่แล้วประมาณ 6.5 ล้านตันไม่รวมการค้าชายแดนและคาดว่าปีนี้จะสามารถส่งออกได้ใกล้เคียงกัน แม้จะประสบปัญหาแล้ง โดยนาย เหงียน วัน ตัม (Nguyen Van Tam) ผู้อำนวยการของกรมพัฒนาเกษตรและชนบทของจังหวัดเกียนยาง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวใหญ่ทางใต้ กล่าวว่า ทางจังหวัดเดิมตั้งเป้าผลิตข้าว 4.7 ล้านตันในปีนี้ แต่ปัญหาภัยแล้งทำให้ผลิตได้ต่ำกว่ากว่าเป้า 200,000 ตัน
นายตัม กล่าวว่า ทางจังหวัดเตรียมเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าว 30,000 – 120,000 เฮกตาร์ ในการปลูกรอบที่ 2 ปลายปีนี้เก็บเกี่ยวต้นปีหน้าเพื่อชดเชยผลผลิตข้าวที่ลดในครอปแรก โดยกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้ให้ความสำคัญต่อการเพิ่มพื้นที่การปลูกข้าวในครอปที่ 2 ปีนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนเพื่อไม่ให้กระทบการส่งออกของประเทศ
เวียดนามนิวส์รายงานว่า ผลผลิตข้าวที่ลดลง ทำให้ราคาข้าวเพิ่มขึ้นโดยขณะนี้ข้าวเปลือกความชื้นต่ำขายที่กิโลกรัมละประมาณ 5,800-5,900 ดอง (ประมาณ 9.14-9.30 บาท) ขณะที่ข้าวหอมมะลิขายกันที่กิโลกรัมละประมาณ 6,700-6,800 ดอง (ประมาณ 10.56 -10.72 บาท) เพิ่มขึ้น 500-700 ดอง (ประมาณ 0.79- 1.10 บาท) เมื่อตอนต้นปี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,148 วันที่ 14 - 16 เมษายน พ.ศ. 2559