เมื่อไม่นานนี้ โพลิทิโค (Politico) สื่อมวลชนสายการเมืองสัญชาติอเมริกัน รายงานว่าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในโลก "ยังคงไม่สามารถจัดการตรวจโรคอย่างมีประสิทธิภาพได้" โดยวัดจากอัตราการตรวจโรคในประเทศที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ หากเทียบกับยอดผู้ปวยใหม่รายวันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สหรัฐฯ ที่มีประชากรกว่า 328 ล้านคน ได้ดำเนินการตรวจโรคโควิด-19 มากกว่า 4 ล้านครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตัวเลขดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นแล้วยังมิอาจเบี่ยงเบนความสนใจจากยอดผู้ป่วยใหม่ที่พุ่งพรวดราวกับติดจรวด ทำให้คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่าการแพร่ระบาดอาจ "ทวีความรุนแรงจนอยู่นอกเหนือการควบคุมในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิกฤติหนัก รัฐแคลิฟอร์เนียติดเชื้อโควิดวันเดียวสูงสุด 1.17หมื่นราย
‘เตชะไพบูลย์’ จัดทัพ ‘รีเจ้นท์ บีช’ พลิกฟื้นธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิด
ความเชื่อมั่นฯปรับตัวดีขึ้นในรอบ14เดือน
ซื้อหรือไม่ซื้ออสังหาฯ ท่ามกลางโควิด-19
บทความคิดเห็นฉบับหนึ่งซึ่งเผยแพร่ผ่าน โพลิทิโค เมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.ค,)ได้แจกแจงปัจจัย 5 ประการที่อยู่เบื้องหลัง " วิกฤตการตรวจโรคโควิด-19 ของสหรัฐฯ "
ประการที่ 1 สหรัฐฯ ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาห่วงโซ่อุปทานได้ โดยห้องปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ทั่วประเทศยังไม่สามารถจัดซื้อสารตัวกระทำปฏิกิริยาในปริมาณที่เพียงพอ แม้สารเคมีดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อกระบวนการตรวจโรค
ประการที่ 2 การเปิดเมืองอีกครั้งทำให้ความต้องการตรวจโรคพุ่งสูง ห้องปฏิบัติการหลายแห่งเริ่มไม่มีศักยภาพเพียงพอจะวิเคราะห์ตัวอย่างที่กองเป็นภูเขาเลากา ซึ่งเป็นผลกระทบหลังสหรัฐฯ ผลักดันให้ตรวจโรคกับผู้คนในเรือนจำและบ้านพักคนชรา เหล่าพนักงานของธุรกิจต่างๆ และผู้ป่วยที่รอรับการผ่าตัดแบบไม่เร่งด่วน
"เราสามารถตรวจโรคได้ราว 5,000-7,000 ครั้งต่อวัน ซึ่งเราคิดว่าเพียงพอแล้วสำหรับการจัดการกับโรคโควิด-19"
เดวิด อีเก ผู้ว่าการรัฐฮาวายให้สัมภาษณ์กับโพลิทิโค "แต่การเปิดเมืองอีกครั้งจะสร้างสถานการณ์อันยากลำบากอย่างแท้จริง โดยเฉพาะความท้าทายของการตรวจโรค เมื่อภาคการท่องเที่ยวค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง"
ประการที่ 3 การตรวจโรคเพียงอย่างเดียวไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ โดยโพลิทิโค ระบุว่าการแกะรอยและตรวจโรค รวมถึงกักกันตัวผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผลถือเป็นขั้นตอนที่มีนัยสำคัญต่อการเอาชนะโรคระบาด
ประการที่ 4 สหรัฐฯ มีปัญหา "คนชายขอบของการตรวจโรค" ซึ่งคิดเป็นจำนวนประชากรในสหรัฐฯ มากกว่า 20 ล้านคน โดยเฉพาะประชาชนคนผิวสี
ประการที่ 5 ทำเนียบขาวหรือรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้จัดตั้งยุทธศาสตร์การตรวจโรคระดับชาติ
ที่มา : ซินหัว