"การปล้นสะดมไม่ใช่การแสดงออกถึงเสรีภาพ" จอร์จ ดับเบิลยู บุช

03 มิ.ย. 2563 | 05:52 น.

"จอร์จ ดับเบิลยู บุช"กังวลเหตุจลาจลในสหรัฐ ชี้การปล้นสะดมไม่ใช่การแสดงออกถึงเสรีภาพของชาวอเมริกัน

         

นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ( สังกัดพรรครีพับลิกัน ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2544-2552) ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการประท้วงที่ลุกลามจนกลายเป็นเหตุการณ์จลาจลไปทั่วประเทศ อันเนื่องมาจากประชาชนจำนวนมากพากันประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนาย “จอร์จ ฟลอยด์” ชายผิวสีที่ถูกตำรวจในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินเนโซตา ใช้เข่ากดบริเวณคอของเขาขณะการจับกุม ทำให้ฟลอยด์ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

จอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างปี 2544-2552)

นายบุช ซึ่งส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นใด ๆ หลังหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2552 กล่าวว่า เขาและนางลอรา บุช อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ รู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเหยียดเชื้อชาติ  แต่การประท้วงที่ลุกลามจนกลายเป็นเหตุการณ์จลาจลและการปล้มสะดมในขณะนี้ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเช่นกัน

 

"การปล้นสะดมไม่ใช่การแสดงออกถึงเสรีภาพ และการทำลายล้างก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่มันกำลังทำให้ทุกอย่างกลายเป็นโศกนาฎกรรม" นายบุชกล่าว

"การปล้นสะดมไม่ใช่การแสดงออกถึงเสรีภาพ"  จอร์จ ดับเบิลยู บุช
 

ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐได้เรียกร้องให้ชาวอเมริกันมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ให้โอกาสกัน และรับฟังกันและกัน โดยไม่คำนึงถึงสีผิวและเชื้อชาติ

ผู้ประท้วงชูป้ายภาพวาดนายจอร์จ ฟลอยด์

การแสดงความเห็นของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐผู้นี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ 40 เมืองทั่วประเทศได้ประกาศเคอร์ฟิว หลังเกิดเหตุจลาจล ทั้งการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ การเผารถยนต์ และการทุบกระจกร้านค้า ท่ามกลางความไม่พอใจต่อการที่ตำรวจใช้ความรุนแรงต่อนายจอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งเป็นชายผิวสี จนเสียชีวิต

 

การเสียชีวิตของนายฟลอยด์ได้กลายเป็นข่าวโด่งดังในโลกโซเชียล โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในรัฐมินเนโซตาได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ หลังสงสัยว่านายฟลอยด์พยายามจะซื้อของในร้านด้วยธนบัตรปลอม และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้จับนายฟลอยด์ใส่กุญแจมือ และผลักเขาให้นอนคว่ำลงกับพื้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งใช้เข่ากดลงบนคอของนายฟลอยด์และทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ซึ่งขณะนั้นนายฟลอยด์พยายามร้องบอกตำรวจว่า "ผมหายใจไม่ออก ได้โปรด ผมหายใจไม่ออก" ก่อนที่เขาจะหมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่นายฟลอยด์ได้เสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล