ล้อมทำเนียบขาว ตะโกนถึงทรัมป์ "ชีวิตคนดำก็สำคัญ"

03 มิ.ย. 2563 | 00:48 น.

ผู้ชุมนุมประท้วงจำนวนหลายพันคนรวมตัวกันบนถนนใกล้กับสวนสาธารณะลาฟาแยตซึ่งติดกับทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) เผชิญหน้ากับแถวนายทหารและตำรวจที่ถูกระดมมาควบคุมสถานการณ์ โดยมีรั้วสีดำที่เพิ่งติดตั้งในชั่วเวลาเพียงข้ามคืนกั้นกลาง กลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนชื่อ “จอร์จ ฟลอยด์” ชายผิวสีเหยื่อการใช้ความรุนแรงของตำรวจในเมืองมินนิอาโปลิส และคำขวัญ “Black Lives Matter” (ชีวิตคนดำก็สำคัญ)

ล้อมทำเนียบขาว ตะโกนถึงทรัมป์ "ชีวิตคนดำก็สำคัญ"

กลุ่มผู้ชุมนุมยืนรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าโบสถ์เซนต์จอห์นซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งมาเยือนเมื่อคืนวันจันทร์ (1 มิ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ได้เข้าสลายการชุมนุมด้วยระเบิดควันและสเปรย์พริกไทยในพื้นที่รายรอบบริเวณสวนสาธารณะลาฟาแยตที่อยู่ใกล้ ๆ กันนั้น

 

ฟ็อกซ์นิวส์ระบุว่า การชุมนุมเมื่อวานนี้เป็นไปด้วยความสงบ โดยมีบาทหลวงจากโบสถ์เซนต์จอห์นนำน้ำบรรจุขวดออกมาแจกจ่ายให้กับผู้ชุมนุมประท้วงและมีการสวดมนต์ร่วมกันด้วย อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า เขาพร้อมที่จะส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) เข้าควบคุมสถานการณ์หากผู้ว่าการรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นไม่สามารถคุมการจลาจลและการฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวที่เกิดขึ้นในหลายเมืองได้ ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่า มีการส่งเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิราว 17,000 นายเข้าประจำการดูแลความสงบเรียบร้อยใน 23 รัฐเป็นอย่างน้อยแล้วในขณะนี้ อาทิ แอริโซนา อลาสกา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด ฟลอริดา จอร์เจีย วิสคอนซินฯลฯ รวมทั้งในกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งข่าวระบุว่า มีกำลังเสริมจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิอย่างน้อย 1,200 นาย

ล้อมทำเนียบขาว ตะโกนถึงทรัมป์ "ชีวิตคนดำก็สำคัญ"

ผู้นำสหรัฐกล่าวประณามการก่อเหตุความรุนแรงภายในประเทศ และย้ำว่า ขอให้ผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ใช้กำลังควบคุมสถานการณ์โดยเร็ว หากเมืองหรือรัฐใดไม่ดำเนินการมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของชาวเมือง เขาจะส่งทหารรัฐบาลกลาง เข้าไปแก้ปัญหาแทน โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายปราบปรามจลาจล ที่ให้อำนาจประธานาธิบดีส่งทหารไปปราบปรามการก่อความไม่สงบของพลเมือง

 

ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ดีซี กรณีพล.อ.อ.โจเซฟ เลงก์เยล ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีการเรียกกำลังเข้าประจำการมากขึ้นกว่าปกติหลายเท่า นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาตามคำสั่งของผู้ว่าการรัฐและนายกเทศมนตรี เพื่อให้การสนับสนุนภารกิจของตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายในท้องถิ่น ในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีที่เสียชีวิตจากการกระทำเกินกว่าเหตุของตำรวจในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินเนโซตา เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งการชุมนุมในหลายพื้นที่ได้ลุกลามกลายเป็นการจลาจลและมีการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น รวมถึงการเผาทำลายและปล้นร้านค้า  

 

วันเดียวกันนั้น ยังมีรายงานข่าวผลการชันสูตรศพนายจอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเขาถูกฆาตกรรม เนื่องจากเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่ใช้เข่ากดที่บริเวณลำคอ โดยภาพจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่กระทำการเป็นเวลานาน แม้ว่าผู้เสียชีวิตจะบอกแล้วว่า เขาหายใจไม่ออก จนเสียชีวิตในที่สุด สอดคล้องกับการชันสูตรศพของทีมแพทย์ที่ครอบครัวนายฟลอยด์จ้างมา ซึ่งระบุว่าเขาตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจ เพราะถูกกดเข้าที่คอและหลัง ซึ่งถือเป็นการเสียชีวิตจากการฆาตกรรม 

อ่านเพิ่มเติม

“ทรัมป์”ขู่ใช้กฎหมาย 200 ปี สยบการจลาจลในสหรัฐ

“เคอร์ฟิว” เมืองใหญ่สหรัฐ ขอกองกำลังควบคุมสถานการณ์

“เทย์เลอร์ สวิฟต์” เปิดศึก “ทรัมป์” คนนับล้านกดไลค์

ประท้วง "สหรัฐ" ม็อบเดือดลามทั่ว ทวง “ความเป็นธรรม” แด่คนผิวสี  

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ทวีตเดือด ขู่โหวตไล่ “ทรัมป์” พ้นตำแหน่งพ.ย.นี้