“Dragon” มังกรเหล็กของสหรัฐฯ

01 มิ.ย. 2563 | 09:44 น.

แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์บนพื้นแผ่นดินสหรัฐฯจะร้อนระอุไปด้วยการประท้วงการเหยียดสีผิว แต่บนฝากฟ้าเหนือแผ่นดินของสหรัฐฯกลับจารึกประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับมวลมนุษยชาติ ด้วยการส่งคนขึ้นไปกับแคปซูลมีเป้าหมายที่สถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งทุกอย่างประสบความสำเร็จและผ่านไปได้อย่างสวยงาม ผิดกับการแก้ไขปัญหาการเหยียดสีผิวซึ่งเป็นปัญหาที่คาราคาซังมานานหลายร้อยปี

ทีมงานฐานเศรษฐกิจ ได้ประมวลรายละเอียดทางด้านกายภาพและเทคนิคต่างๆที่ Space X และ นาซ่า นำมาใช้กับการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านหลังจากที่สหรัฐฯไม่ได้ส่งมนุษย์อวกาศขึ้นไปบนพื้นแผ่นดินของตัวเองหลังจากการส่งครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2011 หรือ 9 ปีที่แล้ว  

การดำเนินการครั้งนี้เกิดขึ้นที่  เคเนดี้ สเปซ เซ็นเตอร์ ในฟอริดา มีเป้าหมายขนส่งคนและเสบียงไปยังสถานีอวกาศ ISS ใช้เวลาเดินทาง 19 ชั่วโมง  สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อดราก้อนไปถึงสถานีอวกาศ นักบินอวกาศจะต้องทำการเชื่อมต่อตัวแคปซูลเข้ากับสถานีอวกาศ ระบบอากาศ แหล่งพลังงาน ก่อนที่ประตูทั้งสองฝั่งจะเปิดเชื่อมเข้าหากัน

โดยปฎิบัติการครั้งนี้เริ่มทำการทดลองมาแล้วไม่ต่ำกว่า 22 ครั้ง และเชื่อมต่อสถานีอวกาศมาแล้วถึง 21 ครั้ง โดยเมื่อปีที่แล้วได้ทำการทดลองและส่งหุ่นนักบินอวกาศขึ้นไปจำลองแทนนักบินอวกาศตัวจริง   

“Dragon” มังกรเหล็กของสหรัฐฯ


 

แคปซูลที่ใช้ขนส่งนักบินอวกาศ 2 คน ชื่อ Dragon (ดรากอน)

นักบินอวกาศ 2 คน ชื่อ Robert Behnken และ Douglas Hurley

จรวดที่บรรทุกแคปซูลดรากอน คือ Falcon 9 (ฟอลคอน 9)

หลังจากที่ ฟอลคอน 9 ส่งดรากอนขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศแล้ว  ดรากอนกลับมาลงจอดยังฐานกลางทะเล

มีการขนส่งพิเศษ : ไดโนเสาร์กลิตเตอร์ขนาดเท่าตุ๊กตา

 

DRAGON

ความสูง 8.1 เมตร

กว้าง 4 เมตร

ห้องโดยสาร 9.3 ลูกบากศ์เมตร

ส่วนบรรทุก 37 ลูกบากศ์เมตร

น้ำหนักขาขึ้น 6,000 กิโลกรัม

น้ำหนักขาลง 3,000 กิโลกรัม

ห้องโดยสารภายใน

เครื่องยนต์ มี 2 ประเภท

  1. Drago  16 ตัว
  2. Superdrago 8 ตัว ที่จะทำให้ดรากอนหลังจากหลุดจากยานขับเคลื่อนแล้วสามารถขับเคลื่อนด้วยความเร่ง ครึ่งไมล์ภายใน 8 วินาที