“จีน”ทุ่มกำลังพัฒนาเศรษฐกิจ"มณฑลหูเป่ย"

รัฐบาลจีนเร่งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของ “มณฑลหูเป่ย” ภายหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง แม้ภายในประเทศจีน บางพื้นที่ยังมีการระบาด รวมทั้ง “มณฑลหูเป่ย” ก็ยังมีผู้ป่วยโควิด-19 อยู่บ้าง

วันนี้ (27 พ.ค.63) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรัฐบาลจีนและรัฐวิสาหกิจจะทุ่มเทกำลังสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลหูเป่ย ภายหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงกำหนดนโยบายพิเศษเพื่อผลักดันการพัฒนา ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

1. ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เข้าร่วมการประชุมพิจารณาของคณะผู้แทนจากมณฑลหูเป่ย ที่เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 24 พ.ค.63 โดยได้กล่าวเน้นว่า

     1.1 รัฐบาลจีนและรัฐวิสาหกิจจะทุ่มเทกำลังสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลหูเป่ย ภายหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงกำหนดนโยบายพิเศษเพื่อผลักดันการพัฒนา  

ทั้งนี้ มณฑลหูเป่ยเป็นมณฑลแรกที่มีรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 ของจีน (ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการป้องกันและควบคุมโรคระบาดของหูเป่ย โดยเมื่อวันที่ 10 มี.ค.63 ได้เดินทางไปตรวจงานที่นครอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย)

การที่มณฑลหูเป่ยเป็นมณฑลที่มีการระบาดของโควิด-19 ร้ายแรงที่สุด และใช้เวลาป้องกันควบคุมนานที่สุด ดังนั้น เมื่อวันที่ 29 เม.ย.63 คณะกรรมการประจำกรมการเมืองกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงได้จัดการประชุมวิสามัญ กำหนดนโยบายพิเศษหลายประการในการสนับสนุนฟื้นฟูเศรษฐกิจของมณฑลหูเป่ย รวมถึงการคลัง ภาษีอากร การเงิน สินเชื่อ การลงทุนและการค้าต่างประเทศ เป็นต้น

     1.2 มณฑลหูเป่ย มีฐานะสำคัญในแผนการพัฒนาแห่งชาติไม่เปลี่ยนแปลง โดยต้องช่วยแก้ไขปัญหาและความยากลำบากในการประกอบกิจการของนักธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ขณะเดียวกันควรเร่งออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการบริโภค ใช้ความพยายามลดความสูญเสียจากโรคระบาดให้น้อยลงจนถึงขั้นต่ำที่สุด พยายามหาโอกาสการมีงานทำให้กับนักศึกษาที่จบการศึกษาในปีนี้ รักษาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายขจัดความยากจนก่อนสิ้นปีนี้ 

2. ข้อสังเกตที่เกี่ยวข้อง

     2.1 ดร.เฉิน จ้งเฉียง กรรมการสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสากลสังกัดมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ ได้ส่งเสริมการพัฒนาด้านการรักษาพยาบาลทางไกล เช่น การสอบถามอาการผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นต้น สร้างโอกาสใหม่กับการพัฒนาของการรักษาทางไกล หรือผ่านอินเตอร์เน็ตนั้น ช่วยประหยัดเวลาเดินทางของผู้ป่วย และลดความเสี่ยงด้านการติดเชื้อระหว่างการมาพบแพทย์ และยังช่วยสร้างคุณภาพด้านการบริการที่ทางโรงพยาบาลเสนออีกด้วย

ดังนั้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ กำลังเปลี่ยนแปลงความเคยชิน และรูปแบบการพบแพทย์อย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งโอกาสนี้จะช่วยปรับปรุงวิธีการลงทุน และส่งเสริมการพัฒนาของโรงพยาบาลระดับชุมชน พร้อมปรับปรุงต้นทุน และโครงสร้างด้านบุคลากรของโรงพยาบาลอีกด้วย

         2.2 นายเหรา เจ่อเหอ สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ สมาชิกสภาวิทยาศาสตร์จีน กล่าวว่า งานศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จีนได้เสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญให้กับการป้องกันโรคระบาดของโลก โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ค.63 ทีมงานวิจัยของจีนได้ประกาศผลการทดลองวัคซีนต้านโควิดกับมนุษย์ครั้งแรกของโลก ซึ่งแม้ว่าจีนจะสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 มีจำนวนผู้ป่วยน้อยลงก็ตาม แต่การทดลองวัคซีนระยะที่ 3 และการประเมินผลของวัคซีนนั้น ยังต้องการความร่วมมือระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ไวรัสไร้พรมแดน วิทยาศาสตร์ไร้พรมแดน ดังนั้น การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศ สามารถที่จะสร้างความรับรู้ทางวิทยาศาสตร์และการสร้างสรรค์ใหม่ด้านเทคโนโลยี  

บทสรุป ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งได้ร่วมพิจารณารายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน จากมณฑลหูเป่ย ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 24 พ.ค.63 โดยได้เน้นย้ำว่า การป้องกันโรคระบาด และขจัดความเสี่ยงจากโรคอุบัติใหม่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และการพัฒนาของชาติ รวมถึงเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมือง

ขณะที่แนวโน้มการระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศยังคงทวีความรุนแรง และภายในประเทศจีนบางพื้นที่ยังมีการระบาดจากการชุมชน รวมทั้งมณฑลหูเป่ยเองก็ยังมีผู้ป่วยโควิด-19 อยู่บ้าง และผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการยังเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญในการรักษาป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-19 ป้องกันการติดเชื้อจากต่างประเทศ ไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำภายในประเทศ เพื่อไม่ให้สิ่งที่ทำมาต้องสูญเปล่า