“เฮิร์ทซ์” แจง ยังให้บริการรถเช่าในเอเชีย
แม้ว่า เฮิร์ทซ์ โกลบัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ (Hertz Global Holdings Inc) ที่เป็นบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา จะยื่นขอฟื้นฟูกิจการภายใต้ กฎหมายล้มละลาย Chapter11 ไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ธุรกิจรถเช่าของเฮิร์ทซ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ จะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว
นายโออิน แมคนีล รองผู้จัดการใหญ่บริษัท เฮิร์ทซ์ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยผ่านการแถลงข่าวของบริษัทที่ประเทศสิงคโปร์วานนี้ (25 พ.ค.) ว่า การยื่นขอความคุ้มครองจากกฎหมายล้มละลายในสหรัฐฯของบริษัทแม่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้สถานะทางการเงินมีปัญหาและไม่สามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับบรรดาเจ้าหนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของเฮิร์ทซ์ในเอเชีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
“เฮิร์ทซ์จะยังคงดำเนินการตามปกติในเอเชีย” อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า ในระยะสั้น ธุรกิจรถเช่าในภาพรวมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้การเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศลดลงอย่างมาก
อ่านเพิ่มเติม "Hertz" ปิดตำนานรถเช่ากว่า 100 ปี ยื่นขอล้มละลายเซ่นพิษโควิด-19
ทั้งนี้ เฮิร์ทซ์ เอเชีย แปซิฟิก (Hertz Asia Pacific)ให้บริการอยู่ในประเทศและเขตปกครองต่าง ๆ ดังนี้ คือ สิงคโปร์ กวม ไซปัน (เป็นเกาะอยู่ในปกครองของสหรัฐอเมริกา) ไทย มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง บรูไน ปากีสถาน กัมพูชา เวียดนาม มาเก๊า ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ อินเดีย และจีน
ส่วนเฮิร์ทซ์ โกลบัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ รวมทั้งบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดานั้น ได้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎหมายล้มละลาย Chapter11 ของสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การดำเนินธุรกิจของเฮิร์ทซ์ในส่วนของอเมริกาเหนือและในเอเชียนั้น แยกออกจากกันภายใต้ข้อตกลงแฟรนไชส์
ดังนั้น “ธุรกิจของเรายังคงดำเนินการไปตามปกติในเอเชีย” แมคนีลกล่าว และว่า ปัจจุบัน สาขาต่าง ๆ ของเฮิร์ทซ์ ที่กระจายอยู่ทั่วเอเชียแปซิฟิก เปิดให้บริการและพร้อมตอบโจทย์ความต้องการรถเช่าของลูกค้า กิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการจองรถ การสะสมแต้มคะแนน และบริการอื่น ๆ เช่นการแจกคูปองส่วนลด และคูปองเงินสด ก็ยังคงมีอยู่
“ตั้งแต่ที่โรคระบาดเริ่มแพร่กระจาย บริษัทเราได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุนลงมา ลดต้นทุนค่าจ้างแรงงาน รวมทั้งการเจรจาขอปรับสัญญาค่าเช่าสถานที่ รวมทั้งการลดจำนวนรถเช่าและรถที่บริษัทมีในครอบครองแต่ยังไม่ได้เอาออกมาวิ่ง”
เฮิร์ทซ์ โกลบัล โฮลดิ้งส์ อิงค์.นั้น เป็นผู้ให้บริการรถเช่าที่ก่อตั้งมาเป็นเวลายาวนานกว่า 100 ปี บริษัทยื่นเรื่องต่อศาลในสหรัฐฯ ขอฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 พ.ค.) หลังรัฐบาลประกาศจำกัดการเดินทางและสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในเคหะสถานเพราะวิกฤติโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้บริษัทสูญเสียรายได้จากการให้เช่ารถตามสนามบินต่าง ๆไปจนหมด โดยเฮิร์ทซ์มีภาระหนี้สินอยู่เกือบ 19,000 ล้านดอลลาร์ และมีการจ้างงานราว 38,000 ตำแหน่งทั่วโลก ณ สิ้นปี 2019
การประกาศภาวะล้มละลายนี้ทำให้เฮิร์ทซ์ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงจากวิกฤติโควิด-19
สื่อต่างประเทศระบุว่า บริษัทไม่สามารถยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เหมือนกับกรณีของสายการบินต่าง ๆ ที่ได้รับเงินกู้ช่วยเหลือมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปพยุงฐานะกิจการเรียบร้อยแล้ว ปัญหาการเงินของบริษัทยังถูกซ้ำเติมจากการที่ไม่สามารถเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อผ่อนผันการชำระค่าเช่าซื้อรถ
ก่อนหน้าจะเกิดวิกฤติโควิด-19 ธุรกิจของเฮิร์ทซ์ยังมีปัญหาจากการแข่งขัน เนื่องจากผู้บริโภคมีทางเลือกใหม่ ๆ และหันไปใช้บริการอื่น ๆ เช่น อูเบอร์ (Uber) จนทำให้เฮิร์ทซ์ต้องเร่งพัฒนาบริการและแอพสำหรับโทรศัพท์มือถือเพื่อดึงดูดลูกค้ามากขึ้น
แหล่งข้อมูลอ้างอิง