สหรัฐขู่คว่ำบาตรจีน กรณีฮ่องกงและร่างก.ม.ความมั่นคง

24 พ.ค. 2563 | 23:49 น.

ที่ปรึกษาทำเนียบขาวลั่น สหรัฐอาจต้องใช้มาตรการคว่ำบาตรกับจีน หากจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่ให้อำนาจแทรกแซงและครอบงำฮ่องกงมากขึ้น

 

นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาทำเนียบขาวฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยวานนี้ (24 พ.ค.) ว่า ร่างกฎหมายความมั่นคงจะทำให้จีนใช้อำนาจเข้าควบคุมฮ่องกงได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้สถานะการเป็นเขตบริหารพิเศษปกครองตนเองของฮ่องกงถูกลดทอนลง และหากเป็นเช่นนั้นเขามองว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เท่ากับเป็นการใช้อำนาจยึดครองฮ่องกง รัฐบาลสหรัฐฯ ก็อาจจำเป็นต้องนำมาตรการคว่ำบาตรมาใช้กับจีนภายใต้กฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงที่รัฐสภาสหรัฐเพิ่งให้การรับรองเมื่อปีที่ผ่านมา(2562) และฮ่องกงก็อาจจะต้องสูญเสียสถานะการเป็นศูนย์กลางการเงินที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกไปในที่สุด  

โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาทำเนียบขาวฝ่ายความมั่นคง

ความเห็นของนายโอไบรอันถูกขานรับโดยนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ออกมาระบุว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เป็นไปได้ที่สหรัฐฯอาจจะไม่สามารถให้การรับรองฮ่องกงในสถานะเขตปกครองตนเองที่มีอำนาจปกครองตนเองในระดับสูง “ร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับนี้คือสัญญาณการสิ้นสุดลงของอำนาจในการปกครองตนเองของฮ่องกง” นายปอมเปโอกล่าว  

ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของทำเนียบขาวยังให้ความเห็นผ่านรายการ Meet the Press ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีด้วยว่า ยากมากที่ฮ่องกงจะดำรงสถานะเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของเอเชียอย่างที่เป็นอยู่ หากจีนเข้ามาครอบงำ  ในอดีตที่ผ่านมา บริการทางการเงินหลั่งไหลเข้ามาเฟื่องฟูในฮ่องกงก็เพราะมีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองการดำเนินธุรกิจอย่างเสรีและระบบทุนนิยม “ถ้าสิ่งเหล่านี้หายไปทั้งหมด ผมก็ไม่แน่ใจว่าชุมชนธุรกิจการเงินจะสามารถคงอยู่ที่นั่นต่อไป พวกเขาจะไม่อยู่ในฮ่องกงภายใต้การครอบงำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างแน่นอน” นายโอไบรอันระบุ  

ชาวฮ่องกงจำนวนมากได้ออกมาเดินขบวนไปตามท้องถนนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 พ.ค.)

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ดังกล่าว มีการนำเสนอในที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือ "ฉวนกั๋วเหรินต้า" ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ที่เปิดฉากเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และผู้นำจีนคนอื่น ๆ เข้าร่วมในการประชุมดังกล่าว ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง

 

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ที่ประชุมได้นำเสนอให้มีการปรับปรุงระบบกฎหมายและกลไกบังคับใช้กฎหมายสำหรับฮ่องกงซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองภายใต้นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ของจีน ที่แม้จะประสบความสำเร็จด้วยดี แต่ก็มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงมากยิ่งขึ้นกระทั่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ และในระยะที่ผ่านมาได้เกิดกิจกรรมต่าง ๆในฮ่องกงที่ท้าทายหลักการพื้นฐานของนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” เป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นภัยคุกคามต่อการรักษากฎหมายในฮ่องกง เป็นภัยต่ออธิปไตยของชาติ ความมั่นคง และกระบวนการพัฒนา

การชุมนุมที่จบลงด้วยแก๊สน้ำตาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

การเสนอร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่นี้ ได้ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านทั้งในฮ่องกงและในหลายประเทศตะวันตก ชาวฮ่องกงจำนวนมากได้ออกมาเดินขบวนไปตามท้องถนนในย่านธุรกิจหลายแห่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 พ.ค.) เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้ และนับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่มีประชาชนออกมารวมตัวมากที่สุดตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในฮ่องกง การประท้วงดังกล่าวจบลงด้วยการใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ