ดอลล์อ่อน ปอนด์ร่วง โลกจับตาข้อมูลศก.สหรัฐสัปดาห์นี้

13 พ.ค. 2563 | 02:28 น.

ดอลล์อ่อนหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯทรุดหนัก ปอนด์ร่วงเหตุแผนผ่อนคลายล็อกดาวน์ไม่ชัดเจน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ทรุดตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 10 ปี ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ยังไม่ชัดเจนของรัฐบาลอังกฤษ

 

ดอลล์อ่อน ปอนด์ร่วง โลกจับตาข้อมูลศก.สหรัฐสัปดาห์นี้

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.31% สู่ระดับ 99.93 เมื่อคืนนี้

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.25 เยน จากระดับ 107.76 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9689 ฟรังก์ จากระดับ 0.9728 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.4040 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4023 ดอลลาร์แคนาดา

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2280 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2329 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.0854 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0808 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6492 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6483 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในเดือนธ.ค.2551 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมี.ค.

 

ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไปได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน รวมทั้งราคาตั๋วเครื่องบิน และห้องพักโรงแรม โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 

ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง ท่ามกลางความสับสนเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลอังกฤษ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในสหราชอาณาจักร

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

 

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศแผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แก่ชาวอังกฤษ แต่นักลงทุนวิพากษ์วิจารณ์ว่าแผนดังกล่าวไม่มีความชัดเจน

 

ข้อมูลอย่างเป็นทางการบ่งชี้ว่า ขณะนี้ สหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ แคว้นเวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในยุโรป โดยมีจำนวนกว่า 38,000 ราย

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน