อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า วิกฤตการระบาดของโควิด-19 เป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ช่วงหลัง ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคม
กูเตอร์เรส กล่าวว่า “โรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังโจมตีสังคมที่แกนกลาง คร่าชีวิตผู้คนและส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชากรทั่วโลก”
ทั้งยังระบุว่า โควิด-19 เป็นบททดสอบที่ใหญ่ที่สุดที่เรากำลังเผชิญด้วยกันนับตั้งแต่การก่อตั้งสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมมือกันตอบสนองด้วยมาตรการสาธารณสุขเพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรค เลขาธิการยูเอ็นกล่าว
ทั้งนี้ยูเอ็น ยังระบุว่าวิกฤตการระบาดของโควิด-19 อาจทำให้ประชากรทั่วโลกตกงานมากถึง 25 ล้านคน ซี่งเป็นการประเมินของ International Labour Oranization (ILO) และยังสร้างแรงกดดันต่อกระแสการไหลเวียนของการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศที่อาจลดลงถึง 40 %
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก ขณะนี้ (1เม.ย.63) มีจำนวน 862,234 รายและมีผู้เสียชีวิต 42,402 ราย และมีผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา189,633 ราย สูงสุดแซงหน้าจีน
ขณะที่ สภาการเดินทางและท่องเที่ยวโลก (WTTC) ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่รุนแรงขึ้น คาดว่าแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความเสี่ยงตกงาน 75 ล้านอัตราการจ้างงาน และคาดว่าส่งผลกระทบต่อจีดีพีด้านการท่องเที่ยวโลกที่จะหายไป 2.1 ล้านล้านเหรียญ ในปี 2020