สุดแบกหนี้ฝ่าโควิด "ดีน แอนด์ เดลูก้า" ยื่นล้มละลาย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดีน แอนด์ เดลูก้า ( Dean & Deluca) ร้านขายอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมจากนิวยอร์ก ที่ก่อตั้งมายาวนานมากกว่า 4 ทศวรรษ ได้ยื่นเรื่องต่อศาลในแมนฮัตตันแจ้งขอล้มละลายและขอความคุ้มครองตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย (Chapter 11) โดยบริษัทขออำนาจศาลคุ้มครองการทวงหนี้จากเจ้าหนี้ในระหว่างเข้ากระบวนการฟื้นฟูกิจการ

ก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะแผลงฤทธิ์ทำให้ทางการนิวยอร์กประกาศใช้มาตรการ “ล็อกดาวน์” ควบคุมการแพร่ระบาดในขั้นสูงสุด ส่งผลให้ร้านค้าจำนวนมากต้องปิดบริการและประชาชนไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น ดีน แอนด์ เดลูก้า มีภาระหนี้สินที่ต้องแบกรับอยู่แล้วมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 16,000 ล้านบาท ขณะที่มีทรัพย์สินเพียง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,600 ล้านบาท และเมื่อปีที่ผ่านมา (2562) บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (บริษัทสัญชาติไทยภายใต้การบริหารงานของสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) ซึ่งซื้อกิจการดีน แอนด์ เดลูก้า มาเมื่อปี 2557  ก็เพิ่งผิดนัดชำระหนี้ 315 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9,500 ล้านบาท

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักส่งผลต่อยอดขาย กลายเป็นปัจจัยซ้ำเติมที่กระหน่ำให้ดีน แอนด์ เดลูก้า ต้องยื่นล้มละลายในครั้งนี้

สรพจน์เคยให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์ส สื่อใหญ่ของสหรัฐฯ เผยแพร่เมื่อเดือนก.ค. 2562 เกี่ยวกับการปิดบริการบางสาขาของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ในสหรัฐฯว่า ที่ผ่านมา นอกเหนือจากเงิน 140 ล้านดอลลาร์ที่ใช้ไปในการซื้อกิจการดีน แอนด์ เดลูก้าแล้ว ทางเพซ ยังได้ใช้เงินไปกว่า 100 ล้านดอลลาร์ในการปรับปรุงกิจการของร้านสาขาในสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นเขายอมรับว่า เพซ ได้ประสบปัญหา “สภาพคล่อง” หลังเข้าซื้อกิจการ แต่ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะฝ่าวิกฤติไปให้ได้โดยที่ผ่านมาได้ทำการปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มทุนไปแล้ว

ทั้งนี้ การยื่นล้มละลายเป็นการยื่นในนามบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์ และดีน แอนด์ เดลูก้า นิวยอร์ก อิงค์. ซึ่งเป็นธุรกิจในสหรัฐฯ และแยกส่วนการบริหารจากธุรกิจของดีน แอนด์ เดลูก้า ในเอเชีย