สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียจะทรงออกค่ารักษาพยาบาลให้แก่ประชาชนทุกคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขซาอุฯ เผยเมื่อวันจันทร์ (30 มี.ค.63)
จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เช้าวันนี้ (1 เม.ย.) ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียมีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย จากยอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,563 รายซึ่งถือว่ามากที่สุดในกลุ่มรัฐอ่าวอาหรับทั้ง 6
อย่างไรก็ดี เตาฟีก อัล-รอเบียห์ รัฐมนตรีสาธารณสุขซาอุฯ เปิดเผยว่า สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานทรงประกาศจะออกค่ารักษาให้แก่พลเมืองและผู้พำนักที่ติดเชื้อโควิด-19 และขอให้ผู้ที่มีอาการป่วยรีบเข้ารับการตรวจโดยเร็ว
“พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว” เขากล่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุฯ ได้ทรงงานอย่างหนัก “ทั้งวันทั้งคืน” เพื่อกำกับดูแลมาตรการควบคุมโรคให้มีประสิทธิภาพ
เจ้าชายโมฮัมเหม็ดทรงปรากฏพระองค์ครั้งล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม หรือเพียงไม่กี่วันก่อนจะมีข่าวว่าเชื้อพระวงศ์ซาอุฯ 4 องค์ถูกจับฐานเป็นกบฏ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นความพยายามกระชับอำนาจก่อนที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ดจะทรงก้าวขึ้นครองราชบัลลังก์
สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานซึ่งมีพระชนมายุ 84 พรรษาทรงมีพระราชดำรัสต่อประชาชนชาวซาอุฯ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และยังทรงเป็นประธานในการประชุมฉุกเฉินทางไกลของผู้นำกลุ่ม G20 ที่มุ่งหารือผลกระทบและมาตรการตอบสนองการระบาดของไวรัสโคโรนา
อย่างไรก็ดี ซาอุดีอาระเบียเลือกใช้มาตรการที่ค่อนข้างเด็ดขาดเพื่อสกัดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทั้งการสั่งระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศ, ปิดสถานที่สาธารณะเกือบทั้งหมด และใช้มาตรการเคอร์ฟิวบางส่วน นอกจากนี้ยังจำกัดการเดินทางเข้า-ออกเมืองใหญ่ๆ เช่น ริยาด, เมกกะ, มะดีนะห์ และเจดดาห์
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยว่า บทเรียนจากไวรัสทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) ที่ระบาดเมื่อปี 2012 ทำให้ซาอุฯ มีความพร้อมมากกว่าเดิม โรงพยาบาลหลายแห่งมีห้องสำหรับแยกผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจโดยเฉพาะ และยังมีระบบระบายอากาศแบบพิเศษที่ช่วยป้องกันไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ
โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 แห่งในซาอุฯ ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยแบบไดรฟ์ทรู และรัฐบาลได้จัดทำคำแนะนำสำหรับประชาชนก่อนจะพบผู้ติดเชื้อเคสแรกในประเทศถึง 7 สัปดาห์