ป้อมแตก โคโรนา "รีเทิร์น" แดนหมีขาว

08 มี.ค. 2563 | 01:41 น.

หลังกล้องไซบีเรีย: ป้อมแตก! โคโรนา "รีเทิร์น" แดนหมีขาว

 

          ความตื่นตระหนกเริ่มมาเยือนถึงแดนหมีขาว เนื่องจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” รีเทิร์นกลับมาเคาะประตูถึงถิ่นอีกครั้ง หลังเคลียทุกเคสปลอดผู้ติดเชื้อนานเกือบเดือน

          เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา เพื่อนๆ ชาวรัสเซียมักยกประเด็นเรื่องไวรัสสายพันธุ์ใหม่มาถกเถียงกันเป็นประจำว่าจำเป็นหรือไม่ที่ชาวรัสเซียจะต้องกังวลกับไวรัสตัวใหม่นี้? ที่ผ่านมารัสเซียพบผู้ติดเชื้อเพียง 2 เคสในภูมิภาคไซบีเรีย ทั้งคู่เป็นชาวจีนที่เพิ่งกลับมาจากประเทศตัวเองเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์และรักษาหายเป็นที่เรียบร้อยช่วงกลางเดือน นอกจากชาวรัสเซียที่อยู่ในเรือไดมอนด์ ปริ๊นเซสและในประเทศกลุ่มเสี่ยง ยังไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อชาวรัสเซียภายในประเทศเลย ช่องทางการเดินทางจากจีนรัฐบาลก็ปิดตายไว้แทบทุกทางแล้ว ชาวหมีขาวส่วนใหญ่จึงวางใจเรื่อยมา

          สถานการณ์กลับผลิกผัน ปิดประตูตะวันออกไปแล้วโควิด-19กลับโผล่ทักมาจากทางตะวันตก จุดที่ระบาดหนักกลับเคลื่อนจากเอเชียไปยังศูนย์กลางยุโรป กันยังไงก็ไม่อยู่จนพบชาวรัสเซียคนแรกที่ติดเชื้อภายในประเทศเมื่อต้นสัปดาห์ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากทางตอนเหนือของอิตาลี จำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบในรัสเซียที่เคยนอนแน่นิ่งจึงค่อยๆ วิ่งขึ้นอีกครั้ง

          เมื่อการแพร่ระบาดไม่คลี่คลายเร็วอย่างที่คิด ทำให้ทางการรัสเซียต้องปรับแผนกันอย่างเร่งด่วน เรามาดูกันว่ารัสเซียออกมาตรการอะไรกันมาบ้างเพื่อรับมือกับไวไรที่แพร่ระบาดครั้งนี้         

ป้อมแตก โคโรนา "รีเทิร์น" แดนหมีขาว

          แน่นอนว่าหลังจากที่พบผู้ติดเชื้อ ทางการรัสเซียรีบสืบหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยเพื่อติดตามอย่างไม่รอช้าตามมาตรฐานสากล เมืองใหญ่ๆ ที่มีประชากรเดินทางเข้าออกจำนวนมากเริ่มเพิ่มระดับมาตรการป้องกัน ยกเลิกกิจกรรมสาธารณะ สายการบินรัสเซียหลายบริษัทเริ่มทยอยยกเลิกไฟล์ทเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง เพิ่มลิสต์สแกนคนเข้าเมืองสกัดไม่ให้ชาวอิหร่านและเกาหลีใต้เดินทางเข้าประเทศจากเดิมที่ห้ามพลเมืองจีนเข้าเพียงประเทศเดียว

          ด้านเมืองหลวง มอสโกเพิ่มมาตรการสูงสุด ประกาศให้ทุกคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงกักตัวเองเพื่อดูอาการ 14 วัน ย้ำให้แต่ละบริษัทภาคธุรกิจสอดส่องพนักงานตัวเอง หากพบว่ามีไข้หวัดให้บังคับหยุดงานทันที ถ้าตรวจพบว่าลูกจ้างติดเชื้อโควิด-19 จริง ต้องทำเรื่องแจ้งไปยังทุกสถานที่ในเส้นทางที่พนักงานคนนั้นผ่าน รวมทั้งเปิดหน่วยฉุกเฉินดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สุ่มตรวจอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารในสถานีรถไฟใต้ดิน และกำลังพิจารณาสร้างตึกกักตัวดูอาการผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อชั่วคราว คล้ายโรงพยาบาลที่จีนเนรมิตขึ้นอย่างเร่งด่วนในอู่ฮั่นรองรับจำนวนผู้ป่วยที่ล้นเกิดรับมือ

          หลายประเทศเริ่มมีข่าวหน้ากากอนามัยและของใช้จำเป็นสำหรับช่วงโรคระบาดขาดตลาดอย่างหนัก รัฐบาลรัสเซียก็ไม่นิ่งนอนใจ ประกาศห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย ถุงมือ ผ้าพันแผล และชุดป้องกันเชื้อโรคเป็นการชั่วคราว ดักธุรกิจที่ขนของออกไปขายโก่งราคากอบโกยจากวิกฤตในต่างประเทศ และเพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนในประเทศจะมีซื้อใช้ในยามฉุกเฉิน

ป้อมแตก โคโรนา "รีเทิร์น" แดนหมีขาว

          รัสเซียมีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเป็นของตัวเองภายในประเทศ ซึ่งยังคงเร่งการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าออกมาให้ข้อมูลว่า ผู้ผลิตกำลังเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้หน้ากากหลายสิบล้านชิ้นต่อวัน แต่ว่าลูกค้าหลักตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาไม่ใช่ชาวรัสเซีย แต่คือประเทศจีน เมื่อปิดชายแดนจีนไป พอดีกับที่การแพร่ระบาดในเกาหลีใต้ปะทุขึ้น จึงส่งไปขายที่เกาหลีใต้เป็นหลักแทน ส่วนในประเทศ ประธานาธิบดีได้ออกมาเตือน หากพบร้านขายยาร้านไหนแอบขึ้นราคา อาจโดนเพิกถอนใบอนุญาตร้านแน่ แน่นอนว่าทุกคนเชื่อว่านายปูตินพูดจริงทำจริง ทำให้ไม่กี่วันต่อมา ราคาหน้ากากอนามัยที่แอบขึ้นราคาทั่วประเทศต้องปรับลดราคาลงมาอย่างเร่งด่วน

          สิ่งที่น่ากลัวในสถานการณ์เช่นนี้ นอกจากเชื้อไวรัสแล้วก็คือข่าวลือ-ข่าวปลอมที่แชร์กันอย่างแพร่หลายในสื่อโซเชียล ทำเอากลุ่มแม่ๆ ผู้ปกครองที่มีลูกเล็กเด็กแดงตื่นตระหนกกันเป็นวงกว้าง ประเด็นนี้นายปูตินออกมาย้ำอย่างหนักแน่นว่าชาวรัสเซียจะต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ได้รับรู้สถานการณ์ตามจริง สร้างความมั่นใจให้ประชาชน เพราะข่าวลวงเหล่านี้จะเป็นภัย สร้างความวุ่นวายได้ ซึ่งต่อมา หน่วยข่าวกรองของรัสเซียออกมาให้ข้อมูลว่า ต้อตอของข่าวลือหลายเรื่องมาจากแหล่งข้อมูลนอกประเทศที่ชอบให้ร้ายรัสเซีย

          ปัจจุบัน รัสเซียยังไม่ได้ประกาศปิดประเทศเพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด คนไทยที่มีแผนเดินทางไปเยือนรัสเซียยังสามารถทำได้ปกติ แต่ก็ควรติดตามสถานการณ์ ศึกษามาตรการควบคุมโรคก่อนก่อนเดินทาง และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพราะล่าสุด มีข่าวว่าชาวต่างชาติเกือบ 100 คนที่ไม่ยอมกักตัวเองตามคำสั่งของทางการรัสเซียถูกส่งตัวกลับประเทศแล้ว


หลังกล้องไซบีเรีย
เรื่อง: ยลรดี ธุววงศ์  

** พบกับ คอลัมน์ “หลังกล้องไซบีเรีย” ทุกวันอาทิตย์ ทุกช่องทางออนไลน์ของ “ฐานเศรษฐกิจ" **
Bio นักเขียน : “ยลรดี ธุววงศ์” อดีตนักข่าวที่ผ่านสนามข่าวทั้งในและต่างประเทศ จากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ Spring News ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาโทอยู่ในส่วนที่หนาวเย็นที่สุดของประเทศรัสเซีย